ในระหว่างการเยือนสหรัฐฯของนายอู๋ ปังกั๋ว ประธานคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน ฟอรั่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจีน-สหรัฐฯจัดขึ้นที่เมืองฟินิกซ์สหรัฐฯในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ ในพิธีเปิดฟอรั่มครั้งนี้ สองประเทศได้ลงนามสัญญาการค้าการลงทุนรวม 41 ฉบับ เป็นเงินเกือบ 12400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นายอู๋ ปังกั๋วกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดว่า การพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯอย่างต่อเนื่องเป็นภารกิจร่วมของสองประเทศในปัจจุบัน เขายังเน้นว่า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ต้องยึดหลักการการค้าเสรี ยับยั้งลัทธิกีดกันทางการค้าไม่ว่ารูปแบบใดๆ

ฟอรั่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจีน-สหรัฐฯมีนักธุรกิจของสองประเทศกว่า 100 คนมาเข้าร่วม นางหม่า เซี่ยวหง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน นางมิเชลลี โอเนลล์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ พร้อมทั้งผู้ว่าราชการมลรัฐแอริโซนา มลรัฐอาร์คันซอส เป็นต้น ต่างได้เข้าร่วมพิธีเปิดครั้งนี้ นายอู๋ ปังกั๋วกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดว่า

"ก่อนจัดพิธีเปิดวันนี้ วิสาหกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านการลงทุนและเศรษฐกิจเทคโนโลยี 41 ฉบับ เป็นเงิน 12380 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงด้านพลังงานใหม่ วัตถุดิบ โทรคมนาคม อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกล และการท่องเที่ยว เป็นต้น"

วิกฤติการเงินโลกไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ หากยังกระทบถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศโดยเฉพาะระหว่างวิสาหกิจ ตัวเลขสถิติปรากฎว่า ในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ ยอดมูลค่าการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯลดลง 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว นายอู๋ ปังกั๋วกล่าวว่า แม้ว่าวิกฤติการเงินโลกส่งผลกระทบทางลบในระดับหนึ่ง แต่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯยังมีอนาคตสดใส

"แม้ว่าการยับยั้งและเปลี่ยนแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย พัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯนั้น เป็นภาระหน้าที่ร่วมกันของเราในปัจจุบัน แม้ว่าร่องรอยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน แต่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯยังมีอนาคตสดใส"

เพื่อรับมือกับวิกฤติการเงินโลกอย่างมีประสิทธิผล จีนดำเนินนโยบายการคลังและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างเหมาะสม ประกาศใช้มาตรการต่างๆเพื่อขยายความต้องการภายในและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ รัฐบาลสหรัฐฯก็ประกาศใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดอย่างไม่เคยมีมาก่อนนับแต่ทศวรรษที่ 1930 เป็นต้นมา นายอู๋ ปังกั๋วเห็นว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสองประเทศได้สร้างโอกาสใหม่แก่ความร่วมมือ การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจก็จะขยายขอบเขตความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้กว้างขึ้น

ขณะเดียวกัน เขายังกล่าวว่า การแก้ความยากลำบากในปัจจุบัน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องยึดหลักการค้าเสรี

"ในปัจจุบัน สองประเทศต้องยึดหลักการค้าเสรี เพื่อป้องกันลัทธิกีดกันทางการค้าไม่ว่ารูปแบบใดๆ"

ด้วยเหตุนี้ นายอู๋ ปังกั๋วหวังว่า วิสาหกิจสองประเทศจะร่วมกันวิจัย บุกเบิกพัฒนาเทคโนโลยี และขยายขอบเขตความร่วมมือให้กว้างขึ้น หวังว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสองประเทศจะยึดความร่วมมือระหว่างวิสาหกิจเป็นสิ่งที่สำคัญเหนืออันใดในการเสริมและปรับปรุงความร่วมมือระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เพิ่มการพิทักษ์สิทธิทรัพย์สินทางปัญญา พยายามปรับปรุงนโยบายและกฏหมายให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เขายังเห็นว่า ควรแสดงบทบาทของกลไกการเจรจาทางยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจจีน-สหรัฐฯ เพื่อแก้ปัญหาความร่วมมือระหว่างสองประเทศอย่างทันกาลและเหมาะสม

Zhou/Sun