China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2009-10-13 21:00:30    
เสี้ย เฉียนหยุนปรมาจารย์ภาพถ่ายบุคคล
รายการวัฒนธรรมจีน

cri

ที่ถนนหวางฝูจิ่งย่านการค้าที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงปักกิ่ง มีร้านถ่ายภาพร้านหนึ่งชื่อ ร้านถ่ายภาพจงกว๋อ นายเสี้ย เฉียนหยุน รองผู้จัด การใหญ่ของรัานนี้ทำงานที่นี่เป็นเวลา 47 ปีแล้ว เขามีความชำนาญการถ่ายภาพบุคคล และได้รับเลือกเป็นผู้ใช้แรงงานแบบอย่างระดับชาติสาขาถ่ายภาพ แต่เพียงผู้เดียว รายการวันนี้ ดิฉันขอพาท่านผู้ฟังไปรู้จักนักถ่ายภาพผู้นี้ค่ะ

เสี้ย เฉียนหยุนเกิดในครอบครัวชาวปักกิ่งธรรมดาเมื่อปี 1962 เขามีพี่น้องกันทั้งหมด 8 คน เพื่อบรรเทาภาระหนักของครอบครัว เมื่อเขาจบการศึกษาระดับมัธยมต้น ก็ลาออกจากโรงเรียนแล้วไปเรียนถ่ายภาพที่ร้าน ถ่ายภาพจงกว๋อ โดยเริ่มจากการแต่งภาพ ซึ่งเป็นงานที่ต้องการความอดทน และความละเอียดประณีต ครูของเสี้ย เฉียนหยุนเห็นว่า เขาตั้งใจทำงานและ รักการถ่ายภาพ จึงให้ไปเรียนการตัดฟิล์มที่แผนกถ่ายภาพได้ และบอก เขาว่า เมื่อทำงานที่รับผิดชอบเสร็จแล้ว ก็สามารถไปเรียนถ่ายภาพ ในห้องถ่ายภาพได้ เสี้ย เฉียนหยุนทบทวนว่า "เพื่อไม่เป็นการรบกวน ช่างภาพ ผมนั่งแอบในมุมห้อง นั่งดูว่าช่างภาพทำงานอย่างไร และสังเกต ว่า ตั้งไฟไว้ตรงไหน อยู่บนอิฐก้อนใด เกาอี้สำหรับคนมาถ่ายภาพ วางไว้ตรงไหน ให้เขานั่งอย่างไร ผมจำเอาไว้หมด เมื่อช่างภาพเลิกงานแล้ว ผมก็เปิดไฟ จัดที่นั่งตามที่จำไว้ แล้วเลียนลีลาท่าทางของช่างภาพ"

เสี้ย เฉียนหยุนฝึกอยู่อย่างนี้เป็นเวลาหลายปี ครูของเขาเห็นถึงความขยันเรียน ก็เลยให้ฟิล์มแก่เขาในการฝึกถ่ายภาพ ในที่สุด ผลงานของเสี้ย เฉียนหยุนถูกนำออกมาแขวนไว้ที่หน้าต่างของร้านถ่ายภาพจงกว๋อ

"มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมถ่ายภาพให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ครูของผมเห็นภาพนี้แล้วบอกว่า ไม่เลว ก็นำไปอัดขยายเป็นขนาด 24 นิ้ว เวลานั้น หน้าต่างแสดงภาพถ่ายของร้านถ่ายภาพจงกว๋อเป็นทิวทัศน์สำคัญของถนนหวางฝูจิ่ง เมื่อเปลี่ยนรูปใหม่ ก็มักจะมีคนไปดูกันเยอะ "

หลังจีนดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศเมื่อปี 1978 เสี้ย เฉียนหยุนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงของสังคมจากลูกค้าต่าง ๆ ที่ไป ๆ มา ๆ ภายในห้องถ่ายภาพขนาดเล็ก ๆ ที่เขาทำงานอยู่"เปลี่ยนไปเยอะ เมื่อก่อน ผู้คนใส่เสื้อสีน้ำเงิน สีขาวหรือสีเทาเป็นหลัก ผู้หญิงไม่กล้ารักสวยรักงาม เดี๋ยวนี้ หนุ่ม ๆ สาว ๆ แต่งตัวหลากหลาย ไม่รู้จะสวยอย่างไรดี เมื่อก่อนถ่ายภาพแต่งงาน แค่่ชุดละ 5 ใบ เดี๋ยวนี้ บางคู่ถ่ายไปนับร้อยใบ เจ้าสาวแต่งหน้าแต่งตัว ทำทรงผม สวมใส่เครื่องประดับต่าง ๆ เช่น ต่างหู สร้อยคอ มาลัยศรีษะ และจะเปลี่ยนชุดหลาย ๆ ชุด มีชุดสากล ชุดจีน ชุดโบราณ รวมทั้งชุดของชนชาติส่วนน้อยด้วย"

เมื่อก่อนถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ เช่นการทำบัตรต่าง ๆ ผู้คนจะไม่มาถ่ายภาพในร้านกันหรอก เดี๋ยวนี้ คนที่ไปถ่ายภาพในร้านก็เพื่อความสวยงาม อย่างแท้จริง ในขณะเดียวกัน เทคนิค เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ทันสมัยขึ้น

เมื่อปี 1999 ร้านถ่ายภาพจงกว๋อตกอยู่ในช่วงภาวะยากลำบาก เสี้ย เฉียนหยุนได้นำพาช่างภาพวัยรุ่นไปถ่ายภาพตามชุมชน องค์การ และวิสาหกิจต่าง ๆ ด้วยฝีมืออันดีเยี่ยมและการบริการที่สมบูรณ์ เป็นที่ประทับใจของลูกค้า ร้านถ่ายภาพจงกว๋องค่อย ๆ เฟื่องฟูขึ้นใหม่

ปีหลัง ๆ นี้ มีช่างภาพจำนวนไม่น้อยพากันออกไปเปิดร้านส่วนตัว บางคนเชิญเสี้ย เฉียนหยุนไปช่วยถ่ายภาพด้วยค่าจ้างสูง แต่เสี้ย เฉียนหยุนปฏิเสธ เขาบอกว่าฝีมือของเขาได้มาจากร้านถ่ายภาพจงกว๋อ เขาจะอุทิศตนให้กับร้านถ่ายภาพแห่งนี้ตลอดไป

ทุกวันนี้ เสี้ยเฉียนหยุนประสบความสำเร็จ ทั้งมีคุณสมบัติและชื่อเสียง เป็นแบบอย่างผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศแต่ผู้เดียวในสาขาอาชีพการถ่ายภาพ เป็นช่างภาพระดับพิเศษ เขาถ่ายภาพให้นักการเมือง ศิลปิน นักกีฬา และบุคคลผู้มีชื่อเสียงจำนวนนับไม่ถ้วน และได้รับรางวัลมากมาย ในฐานะเป็นศิลปินภาพถ่าย เขานิยมให้คนอื่น ๆ เรียกเขาว่า ช่างภาพเสี้ย ซึ่งเป็นคำเรียกลักษณะรากหญ้า เสี้ยเฉียนหยุนเห็นว่า "แต่ละคนต่างก็มีมุมมอง 360 องศาเท่านั้น ช่างภาพเป็นผู้ที่มีสายตาพิเศษ ต้องสะท้อนบุคลิกภาพของผู้ที่มาถ่ายให้ออกมาดีที่สุดตามอาชีพของคนนั้น ๆ และการใช้งานของภาพภายในเวลาอันสั้น เพราะฉะนั้น ช่างภาพจึงเป็นทั้งศิลปินและเป็นผู้กำกับด้วย โดยใช้แสงเป็นปากกา วาดภาพที่สวยที่สุดให้แก่ลูกค้า"

ช่างภาพเสี้ยถือการถ่ายภาพเป็นการตอบคำถาม เพื่อตอบคำถามแต่ละข้อให้ดีที่สุด เขาสังเกตสิ่งของและเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิต และเรียนจากช่างภาพคนอื่น ๆ มาโดยตลอด เขาศึกษาวิจัยศิลปะทั้งบนเวที การแสดงภาพยนตร์ โทรทัศน์ นิตยสารและรูปภาพ เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจของภาพ แสง และสี ช่างภาพต้องใช้กล้องถ่ายภาพเพื่อศึกษาโลก

ช่างภาพเสี้ยเห็นว่า แรงบันดาลใจของเขามาจากลูกค้า ช่างภาพต้องมีน้ำใจ ไม่งั้นจะไม่มีผลงานที่ดี สาเหตุที่ช่างภาพเสี้ยมีความกระตือรือร้นต่ออาชีพนี้ ก็เพราะว่า เขามีความผูกพันกับลูกค้าอย่างลึกซึ้งและเหนี่ยวแน่น "มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมไปถ่ายภาพที่อำเภอจัวโจว มณฑลเหอเป่ย ผมมีอาการป่วยที่นั่น แต่มีคุณยายคนหนึ่งมาหาผมหน้าห้องถ่ายภาพ เพื่อนร่วมงานบอกไปว่า ช่างภาพเสี้ยป่วย ถ่ายภาพให้ไม่ได้ คุณยายผู้นี้บอกว่า เธอไม่ได้มาให้ผมถ่ายภาพ แต่เธอมาช่วยรักษาโรคให้ช่างภาพต่างหาก"

ช่างภาพเสี้ยบอกว่า ด้วยอาชีพการถ่ายภาพ เขาผูกไมตรีกับลูกค้าจำนวนไม่น้อย เวลาเดินตามถนนในกรุงปักกิ่ง มักมีลูกค้าที่รู้จักมาทักทาย มีคุณหมอคนหนึ่ง ตั้งแต่ครบรอบวันเกิดร้อยวันจนถึงวันแต่งงาน เขาให้ช่างภาพเสี้ยถ่ายภาพมาโดยตลอดทุก ๆ ครึ่งปี ปัจจุบัน คุณหมอผู้นี้มีลูกแล้ว และก็เชิญช่างภาพเสี้ยไปถ่ายภาพให้เช่นเดิม

สื่อมวลชนต่าง ๆ จึงยกย่องช่างภาพเสี้ยว่า เป็นช่างภาพปรมารจารย์ที่ผูกพันกับชาวบ้าน ที่จบลงคือ สารคดีเรื่อง เสี้ย เฉียนหยุนปรมารจารย์ภาพถ่ายบุคคล