China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2009-11-10 14:45:39    
"ภาพยนตร์แดง" เฟื่องฟู

cri
สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟัง ขอต้อนรับสู่รายการ "มุมมองทางวัฒนธรรม" ค่ะ พบกับดิฉันพิศศรี ห่อเพชรพลอย

ท่านผู้ฟังคะ ปัจจุบัน ทางหน้าจอโทรทัศน์และโรงภาพยนตร์ของจีนมีความหลากหลายมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงประการหนึ่งคือ "ภาพยนตร์แดง" ซึ่งเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับวีรชนและประวัติการต่อสู้ นำแสดงโดยนักแสดงหน้าตาดี มีการจัดทำเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายอย่างสวยงาม มีการถ่ายทำที่ยิ่งใหญ่ และวิธีการเล่าเรื่องที่ดี ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้ชมอย่างมาก โดยเฉพาะคนในวัยหนุ่มสาว กล่าวได้ว่า "ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์แนวรักชาติ" หรือ "ภาพยนตร์แดง" เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และในวันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ค่ะ

(ดนตรีจากภาพยนตร์เรื่อง "เจี้ยน กั๋ว ต้า เย่" (Jian Guo Da Ye) หรือ "Founding of a Republic"...)

ที่ท่านกำลังฟังอยู่นี้เป็นเสียงดนตรีจากภาพยนตร์เรื่อง "เจี้ยน กั๋ว ต้า เย่" (Jian Guo Da Ye) หรือ "Founding of a Republic" ซึ่งเป็นภาพยนตร์สุดฮิตของจีนในช่วงนี้ ถ่ายทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง 60 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบผลสำเร็จเหนือการคาดหมาย นับตั้งแต่นำออกฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อกลางเดือนกันยายนเป็นต้นมา ในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน สามารถทำรายได้เฉพาะในแผ่นดินใหญ่จีนกว่า 400 ล้านหยวน ขึ้นแท่นภาพยนตร์จีนที่สร้างรายได้สูงสุด และเมื่อนำออกฉายที่ฮ่องกงแล้ว ยังทำเงินได้มากกว่าภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่จากฮอลลิวู๊ดหลายเรื่องที่ออกฉายในช่วงเดียวกัน

ในอดีต ภาพยนตร์แนววีรชนของจีนมักไม่ค่อยประสบความสำเร็จในทางพาณิชย์และการตลาดมากเท่าไร แต่ภาพยนตร์เรื่อง "เจี้ยน กั๋ว ต้า เย่" นี้มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ด้วยการนำดาราชื่อดังมาร่วมแสดงจำนวนมากและการทำประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ จึงเป็นตัวอย่างแห่งความสำเร็จให้แก่ภาพยนตร์ในแนวเดียวกัน เหล่าดารายอดนิยมในปัจจุบันกว่า 170 คนมาแสดงเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ เช่น ประธานเหมา เจ๋อตง นายพลเจียง ไคเช็ก มาดามซ่ง ชิ่งหลิง ฯลฯ ผู้ชมบางคนบอกว่าดูหนังเรื่องนี้เหมือนได้นั่งดู "ดาว" พยายามนับว่า มีดาวดวงไหนบ้าง ซึ่ง "ดาวรุ่ง" และซูปเปอร์สตาร์ทั้งหลายเหล่านี้เป็นแรงดึงดูดคนวัยหนุ่มสาวจำนวนมากเดินเข้าสู่โรงภาพยนตร์เพื่อดูเรื่องนี้

ผู้ชมคนหนึ่งชื่อ หลิว หลานถิง เล่าว่า

"พอดีเป็นช่วง 60 ปี การสถาปนาประเทศ ได้ดูหนังเรื่องนี้จึงมีความหมายอย่างยิ่ง ได้ยินว่ามีดารามากหน้าหลายตา เราจึงอยากมาดูด้วย ดูว่าการแสดงของพวกเขาเป็นยังไงบ้าง เยี่ยมจริงๆ ที่รวบรวมดาราไว้ได้มามากถึงขนาดนี้ และยังสามารถนำเสนอประวัติศาสตร์ให้เป็นความบันเทิงได้ ทั้งทำรายได้อย่างงดงาม และทั้งสามารถเผยแพร่ประวัติศาสตร์ไปในตัวด้วย เยี่ยมจริงๆ"

นายหวงผู่ อี๋ชวน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ศูนย์วิจัยศิลปะสาขาภาพยนตร์แห่งประเทศจีนกล่าวว่า ช่วงหลายปีมานี้ วงการภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ของจีนมีการทดลองมาโดยตลอดในเรื่องทำอย่างไรจึงจะทำตลาดและสร้างรายได้ พร้อมไปกับได้รับเสียงสะท้อนที่ดีจากสังคมด้วย นับว่าการทดลองนี้ไม่เลวเลยทีเดียว เขากล่าวว่า

"จะสื่อด้วยวิธีไหนจึงจะสอดคล้องกับแนวคิดของหนุ่มสาวสมัยใหม่ ช่วงหลายปีมานี้ทำได้ค่อนข้างสำเร็จ ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งต้องคำนึงถึงตั้งแต่การเขียนบท การอำนวยการสร้าง และการฉาย ต้องคิดว่าจะให้ผู้ชมได้รับอะไร โปรโมทอย่างไร ใช้นักแสดงคนไหน ทำจากแง่มุมของผู้ชมและสิ่งที่ตลาดต้องการ นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่าเรื่อง เราเรียนรู้ว่าควรเล่าเรื่องภาพยนตร์แนวรักชาตินี้อย่างไรใน"

ปี 2007 มีละครโทรทัศน์เรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก คือ "สื้อ ปิง ทู จี" (Shi Bing Tu Ji) หรือ "ทหารจู่โจม" ทำให้ผู้คนนิยามละครแนว "วีรชน" ใหม่ ละครโทรทัศน์เรื่องนี้เล่าถึงสี่ว์ ซานโต (Xu Sanduo) ทหารนายใหม่ที่มาจากเขตชนบท ซึ่งทั้งซื่อและดื้อดึง แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่จนพัฒนาเป็นทหารที่ดีที่สุด อุปสรรคและเรื่องราวต่างๆ ที่เขาประสบในชีวิตการเป็นทหาร ทำให้ผู้ชมขบคิดได้และเปรียบเทียบกับตัวเองว่า คนธรรมดาสามัญควรสร้างตัวเองให้ประสบความสำเร็จอย่างไง

นายคัง หงเหลย ผู้กำกับละครโทรทัศน์เรื่องดังกล่าวระบุว่า ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ที่เล่าเรื่องราวของวีรชน ประวัติการต่อสู้และการปฏิวัติควรมีนวัตกรรมใหม่ๆ

"สิ่งที่ต้องเผชิญคือ สร้างสิ่งใหม่ๆ รังสรรค์นวัตกรรมใหม่ แน่นอนต้องมีความเสี่ยงบ้าง ทั้งวิธีการเล่า การดำเนินเรื่อง และนัยที่แฝงเร้งไว้ ตลอดจนค่านิยมในการเข้าชม ล้วนเกิดสิ่งที่ผิดแผกไปจากแต่ก่อน"

นายหวงผู่ อี๋ชวน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ศูนย์วิจัยศิลปะสาขาภาพยนตร์แห่งประเทศจีนยังกล่าวเสริมอีกว่า สาเหตุที่ "ภาพยนตร์แดง" เฟื่องฟูขึ้นก็เพราะเน้นถึงคุณค่าและเอกลักษณ์ส่วนบุคคล ทั้งการเปลี่ยนแปลงทัศนะที่มีต่อวีรชน เป็นไปตามกระแสนิยม และสุนทรีภาพของคนรุ่นใหม่