วันที่ 8 กันยายน นายหวัง อี้มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนจัดแถลงข่าวร่วมกับนายชาห์ มัคดูม มะห์มูด คูเรชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน ขณะตอบคำถามว่า ระเบียงเศรษฐกิจจีน –ปากีสถานทำให้ภาระหนี้สินของปากีสถานเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายหวัง อี้กล่าวว่า ระเบียงเศรษฐกิจจีน –ปากีสถาน ประสบความสำเร็จ และไม่ได้เพิ่มภาระหนี้สินของปากีสถาน
นายหวัง อี้กล่าวว่า ระเบียงเศรษฐกิจจีน –ปากีสถานเป็นโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่สำคัญ มีจุดเริ่มต้นตามความต้องการของปากีสถาน จีนเป็นประเทศที่เน้นเรื่องของน้ำใจและมิตรภาพ เมื่อก่อน ตอนที่จีนยังยากจนและลำบากมาก ปากีสถานได้ยื่นมือช่วยเหลือจีน ปัจจุบัน จีนยินดีตอบแทน ช่วยปากีสถานเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยนายหวังอี้ ได้เสนอตัวเลขสถิติหลายราย ปัจจุบัน มีโครงการความร่วมมือ 22 โครงการ ก่อสร้างภายใต้กรอบระเบียงเศรษฐกิจจีน –ปากีสถาน ในจำนวนนี้ มี 9 โครงการสร้างแล้วเสร็จ อีก 13 โครงการกำลังดำเนินงานก่อสร้าง ยอดการลงทุน 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลักดันการพัฒนาของเศรษฐกิจปากีสถานเพิ่ม 1 – 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี สร้างโอกาสการมีงานทำ 70 ,000 ตำแหน่ง ผลสำเร็จเหล่านี้เห็นเป็นรูปธรรม สิ่งที่ผมอยากจะเน้นคือ การสร้างสรรค์ ระเบียงเศรษฐกิจจีน – ปากีสถานไม่ใช่เพื่อบางพื้นที่ หรือเพื่อคนบางกลุ่มคน แต่เพื่อประเทศปากีสถาน และนำผลประโยชน์ให้กับประชาชนของปากีสถาน
นายหวัง อี้ชี้ให้เห็นว่า โครงการสร้างสรรค์ระเบียงเศรษฐกิจจีน – ปากีสถานในตอนต้นจะให้ความสำคัญด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม ทั้งนี้เนื่องด้วยความต้องการของปากีสถาน อีกทั้งเป็นขั้นตอนที่จำเป็นต้องผ่านในกระบวนการพัฒนาแบบอุตสาหกรรมของประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะว่า ถ้าหากไม่มีพลังไฟฟ้าและไม่มีถนนหนทางที่ดี ก็ไม่สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต และระบบโลจิสติกส์ที่หมุนเวียนอย่างรวดเร็วคล่องตัว โครงการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องจะช่วยปากีสถานขจัดอุปสรรค์การพัฒนาทางเศรษฐกิจ สร้างพื้นฐานสำคัญให้กับการพัฒนาของระเบียงเศรษฐกิจจีน – ปากีสถาน ในขั้นตอนต่อไปทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงว่า จะกระชับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการผลิตให้ลงลึกมากยิ่งขึ้น ช่วยปากีสถานพัฒนาระบบอุตสาหกรรมการผลิต เพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิต สร้างโอกาสการมีงานทำ การขยายการค้า ปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนปากีสถานได้รับประโยชน์จากระเบียงเศรษฐกิจจีน – ปากีสถานมากขึ้น
นายหวัง อี้กล่าวเน้นว่า สำหรับปัญหาหนี้สิน การขอเงินกู้และสมทบเงินทุนระหว่างประเทศเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างนั้น เป็นวิธีปฏิบัติปกติของประเทศต่างๆ หลายปีมานี้ ปากีสถานได้ยื่นขอเงินกู้จากกองทุน ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ปัจจุบัน หนี้สินของปากีสถานมี 47% มาจากองค์กรการเงินระหว่างประเทศ ส่วน 22 โครงการของระเบียงเศรษฐกิจจีน – ปากีสถานนั้น มี 18 โครงการได้รับความช่วยเหลือการการลงทุนโดยตรงจากจีน มีเพียง 4 โครงการเท่านั้นที่ขอเงินกู้พิเศษจากจีน กล่าวได้ว่า โครงการสร้างสรรค์ระเบียงเศรษฐกิจจีน – ปากีสถานไม่ได้เพิ่มภาระหนี้สินให้กับปากีสถาน สิ่งที่ตรงกันข้ามคือ เมื่อโครงการเหล่านี้สร้างเสร็จ จะนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่มหาศาลต่อปากีสถาน
นายหวัง อี้ยังกล่าวว่า สำหรับปัญหาที่ว่า "ความโปร่งใส" ของระเบียงเศรษฐกิจจีน – ปากีสถาน ทั้งสองฝ่ายต่างมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ระเบียงเศรษฐกิจจีน –ปากีสถานเป็นโครงการที่มีความโปร่งใสมาโดยตลอด โครงการความร่วมมือทั้งหมดล้วนได้ผ่านการพิจารณาตามหลักการมาแล้ว และปฏิบัติขั้นตอนต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ ไม่เคยมีปัญหาด้าน "ความโปร่งใส" จีนกับปากีสถานยินดีต้อนรับพันธมิตรฝ่ายต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมการสร้างสรรค์ของ ระเบียงเศรษฐกิจจีน –ปากีสถาน โดยหวังว่าโครงการนี้จะสามารถส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเชื่อมต่อของภูมิภาค สร้างคุณูปการเพื่อการพัฒนาร่วมกัน
(Bo/Lin/cai)