เยาวชนกลุ่มหนึ่งเดินทางมาจากประเทศรายทางหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง แม้ว่าระยะทางนั้นห่างไกล แต่มีความใกล้ชิด พวกเขาอาจจะมาเรียนหรือท่องเที่ยวในประเทศจีน อาจจะมาทำงานหรือบุกเบิกธุรกิจ แม้กระทั่งบางคนอาศัยอยู่ในประเทศจีนมาหลายปีแล้ว จนมีความผูกพันกับจีนอย่างมาก พวกเขาได้เห็นกับตาถึงการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงของจีนอย่างรวดเร็ว และยินดีร่วมแบ่งปันความรู้สึกจากมุมมองของตนเองในกิจกรรม "กดไลค์จีน"

(บรรยายภาพ – โจว เซ่าคัง นักวิชาการหนุ่มจากคาซัคสถาน ถ่ายภาพโดย หวัง เผิงหยู่)

โจว เซ่าคัง นักวิชาการหนุ่มจากประเทศคาซัคสถาน กำลังศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และการค้าระหว่างประเทศ กรุงปักกิ่ง ซึ่งเขาสามารถพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว

โจว เซ่าคัง เกิดที่รัสเซีย โตที่คาซัคสถาน เรียนที่จีน เขาเห็นว่า ข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ได้นำมาซึ่งโอกาสการพัฒนาใหม่แก่รัสเซีย คาซัคสถานและประเทศรายทาง

เขาเล่าว่า ที่ประเทศคาซัคสถานมีโครงการดีๆ หลายโครงการ แต่ขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและขาดแคลนอุปกรณ์ แต่ว่าปัญหานี้จีนสามารถสนับสนุนได้ ทำให้โครงการเหล่านี้เริ่มดำเนินได้ ปัจจุบันก็มีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในรูปแบบนี้แล้ว จริงๆ วิธีนี้ดำเนินได้ในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะโครงการในเอเชียกลาง แอฟริกาและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ

โจว เซ่าคังใช้ชีวิตในจีนกว่า 10 ปีแล้ว เป็นสักขีพยานการเติบโตของจีนในทุกๆ ด้าน เขาเห็นว่า การที่จีนมีข้อริเริ่มดังกล่าว แสดงว่าเทคโนโลยีของจีนมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และสามารถเอามาแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้ด้วย เพราะได้ยืนอยู่บนพื้นฐานที่มีเศรษฐกิจแข็งแรง

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของสหพันธ์มหาวิทยาลัยเศรษฐกิจจีน-รัสเซีย และแขกรับเชิญของรายการ "ประเด็นร้อนกับมุมมองต่างชาติ" ของสถานีวิทยุซีอาร์ไอ เขาพยายามส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านวิชาการและวัฒนธรรมระหว่างจีนและรัสเซีย เขายินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-รัสเซีย จีน-คาซัคสถานและจีนกับประเทศอื่นๆ

โจว เซ่าคังกล่าวว่า ข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เป็นทิศทางใหม่ของจีน และคล้ายกับขบวนรถที่ได้ออกจากสถานีแล้ว และตัวเองขอเป็นหนึ่งในบรรดาผู้โดยสารทั้งหลาย เพื่อเดินทางไปยังยุคใหม่และอนาคตที่ดีงามยิ่งขึ้นพร้อมๆ กับประเทศจีน

Yim/Lei/Zheng