สำนักข่าวซินหวารายงานว่า ขณะนี้ จีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศผู้สนับสนุนทางการเงินรายใหญ่อันดับสองของสหประชาชาติ และกิจการรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติ ต่อการนี้ นางฮว่า ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า จีนสนับสนุนความหลากหลายขั้วของโลกอย่างมุ่งมั่น ในฐานะประเทศกำลังพัฒนา จีนจะปฏิบัติพันธกรณีทางการเงินที่มีต่อสหประชาชาติ เพื่อสร้างคุณูปการให้แก่การพัฒนาและสันติภาพของโลก และพิทักษ์สิทธิประโยชน์ที่ชอบธรรม เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติได้รับมติเกี่ยวกับการจัดสัดส่วนเงินอุดหนุนสหประชาชาติ และกิจการรักษาสันติภาพของแต่ละประเทศสมาชิกระหว่างปี 2019-2021 ในส่วนเงินอุดหนุนสหประชาชาติ สัดส่วนของจีนสูงกว่าของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ทำให้จีนกลายเป็นประเทศผู้อุดหนุนทางการเงินของสหประชาชาติใหญ่เป็นอันดับสอง
นางฮว่า ชุนหยิง กล่าวว่า ผลดังกล่าวเกิดจากเศรษฐกิจจีน และผลิตภัณฑ์มวลรวมของจีนในช่วงปีหลังๆ นี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้จีนพัฒนาเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก และมีบทบาทมากขึ้นในเวทีระหว่างประเทศ หลักการในการกำหนดสัดส่วนการอุดหนุนทางการเงินของสหประชาชาตินั้นคือ ต้องพิจารณาถึงขีดความสามารถด้านเศรษฐกิจและการเงินของประเทศสมาชิก ถึงแม้ว่า ขณะนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจีนมีปริมาณมาก แต่รายได้เฉลี่ยต่อหัวของจีนยังคงอยู่ในระดับต่ำ จีนจึงต้องถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา นี่เป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาถึงทักษะในการอุดหนุนทางการเงินของสหประชาชาติ
จากมติของสมัชชาสหประชาชาติครั้งนี้ สัดส่วนการอุดหนุนสหประชาชาติทางการเงินของจีนเพิ่มขึ้นเป็น12% จากเดิม 7.92% ด้านสัดส่วนการอุดหนุนทางการเงินในกิจการรักษาสันติภาพของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 15.22% จากเดิม 10.24%
นางฮว่า ชุนหยิงยังเรียกร้องให้ทุกประเทศจ่ายเงินอุดหนุนสหประชาชาติ และกิจการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติตามจำนวนและเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อสนับสนุนให้สหประชาชาติแสดงบทบาทในการรักษาสันติภาพ และส่งเสริมการพัฒนาของโลก
(bo/cai)