ทุกปีเมื่อใกล้จะถึงเทศกาลตรุษจีน นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนมักจะออกเดินทางไปยังเขตยากจนพื้นที่ต่างๆของจีน โดยกล่าวว่า “ทุกปีพอถึงตรุษจีน ประชาชนที่ยากจนเป็นคนที่ผมห่วงใยเป็นที่สุดมาโดยตลอด” ช่วงหลายปีมานี้ นายสี จิ้นผิงได้เดินทางไปยังเขตแร้นแค้นพิเศษต่างๆทั่วประเทศจีน เพื่อรับรู้ถึงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของประชาชนที่ยากจนข้นแค้นเหล่านี้ และค้นหาสาเหตุที่ทำให้เขตเหล่านี้เกิดปัญหายากจน เพื่อกำหนดทิศทางการใช้ความพยายามและเป้าหมายการทำงานช่วยเหลือผู้ยากจน ซึ่งในฐานะที่เป็นผู้นำสูงสุดของจีน นายสี จิ้นผิงย้ำหลายครั้งว่า ในหนทางการสร้างสรรค์สังคมเหลือกินเหลือใช้รอบด้าน ไม่อาจละทิ้งประชาชนคนใดคนหนึ่งได้ ต้องให้เกษตรกรทั้งหลายได้รับผลประโยชน์จากการปฏิรูปโดยถ้วนหน้า
ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายน ปี 2013 นายสี จิ้นผิงได้เดินทางไปยังหมู่บ้านสือปาต้ง พื้นที่ห่างไกลในเขตเขาที่ยากจนเป็นพิเศษ โดยได้ไปเยี่ยมเยือนครอบครัวของนายซือ ฉีเหวิน ชาวบ้านที่ยากจนในพื้นที่เพื่อรับทราบสภาพการทำงานและชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้อย่างละเอียด
ทั้งนี้ มาตรฐานความยากจนในชนบทที่รัฐบาลจีนกำหนดคือ รายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ปีละ 2,300 หยวน แต่รายได้ต่อหัวของชาวบ้านเขตยากจนดังกล่าวในปี 2013 กลับมีไม่ถึง 1,700 หยวน ซึ่งไม่ถึง 20% ของรายได้เฉลี่ยต่อคนของเกษตรกรทั่วประเทศในปีเดียวกัน ในหมู่บ้านสือปาต้ง นายสี จิ้นผิงมีคำชี้นำว่า “ต้องช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างตรงจุด” เป็นครั้งแรก หลังจากนั้น หมู่บ้านสือปาตงก็ได้รับการพัฒนาธุรกิจหลัก 5 ประการ ได้แก่ เศรษฐกิจบริการแรงงาน ธุรกิจการเพาะปลูก ธุรกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์ การเย็บปักถักร้อยชนเผ่าเหมียว และธุรกิจบริการการท่องเที่ยว ผลจากการพัฒนากิจการเหล่านี้ ถึงปี 2017 ทั้งหมู่บ้านก็ได้หลุดพ้นจากความยากจน และกลายเป็นตัวอย่างการขจัดความยากจนที่ศึกษาได้และน่าเผยแพร่ไปยังพื้นที่อื่นๆ
เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2017 นายสี จิ้นผิงเดินทางไปตรวจเยี่ยมที่หมู่บ้านเจ้าเจียวา พื้นที่ห่างไกลที่ยากจนในเขตเขาหลู่ว์เหลียง มณฑลซานซี นายสี จิ้นผิงได้เข้าไปเยี่ยมบ้านนายหลิว ฝูโหย่ว เพื่อรับทราบสภาพรายได้และปัญหาที่น่ากังวลที่สุดของเขา
นายหลิว ฝูโหย่วเล่าว่า ท่านมาถึงบ้านและถามว่าปกติมีการใช้จ่ายอะไรบ้าง จึงตอบไปว่าส่วนหนึ่งใช้ซื้อแป้ง ข้าว น้ำมัน เกลือ และเครื่องปรุงอาหารต่างๆ อีก 80% ใช้ในการซื้อยารักษาโรค
ข้อมูลจากผลการสำรวจแสดงว่า กลุ่มคนที่ตกอยู่ในสภาพยากจนข้นแค้นเนื่องจากเจ็บป่วยคิดเป็น 40% ขึ้นไปของจำนวนผู้ยากจนทั้งหมดในจีน หากไม่สามารถรู้ถึงต้นเหตุที่แท้จริงได้ ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาอย่างถูกจุดได้ นายสี จิ้นผิงชี้ว่า ต้องเน้นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดกับกลุ่มคนที่ตกอยู่ในสภาพยากแค้นเนื่องจากเจ็บป่วย ซึ่งคนกลุ่มนี้มีอยู่ถึง 20 ล้านคนในปัจจุบัน โดยปี 2017 เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขจำนวนกว่า 8 แสนคน ได้ใช้เวลา 2 เดือนทำการสำรวจวิจัยต่อผู้ยากจนทั่วประเทศจีน และได้ข้อสรุปว่าโรคร้ายแรงที่ทำให้ต้องเสียค่ารักษาจำนวนมากมีอยู่ 45 ชนิด ภายหลังดำเนินโครงการช่วยเหลือผู้ยากจนด้านสุขภาพแล้ว ถึงปีที่แล้ว ประชากรที่ยากจนเนื่องจากการเจ็บป่วยในจีนได้หลุดพ้นจากความยากจนแล้ว 5,810,000 คน ซึ่งในคำอวยพรปีใหม่ปีนี้ นายสี จิ้นผิงได้เอ่ยถึงเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วยว่า
“ปีนี้ งานบรรเทาความยากจนได้รับผลงานที่น่าพอใจ ทั่วประเทศจีนมีอำเภอยากจน 125 แห่งหลุดพ้นจากความยากจน และมีชาวบ้านในเขตห่างไกลหลุดพ้นจากสภาพชีวิตความเป็นที่ยากลำบากเป็นจำนวน 10 ล้านคน ระบบประกันสุขภาพได้เพิ่มรายชื่อยาต้านมะเร็งอีก 17 ชนิด สภาพการตกเป็นผู้ยากจนเนื่องจากการเจ็บป่วยได้รับการปรับปรุงดีขึ้น ข้าพเจ้าเป็นห่วงประชาชนที่ยากจนมาโดยตลอด และเนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ ขออวยพรให้ประชาชนทุกคนจงประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป”
Yim/Zhou/Sun