หลายวันมานี้ “ปีใหม่จีน” กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในรายงานของสื่อมวลชนต่างประเทศ ผู้นำประเทศต่าง ๆ พากันกล่าวคำอวยพรตรุษจีน จุดหมายตาของท้องที่ต่าง ๆ เปิดไฟ “สีแดงแบบจีน” สถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์กว่า 200 แห่งทั่วโลกถ่ายทอดหรือรายงานข่าวงานราตรีเฉลิมฉลองตรุษจีนที่สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางของจีนจัดขึ้นแก่ผู้ชมทั่วโลก รวมไปถึงการแข่งขัน NBA ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแบบปีใหม่จีน นายลาร์ส ล็อกเก ราสมุสเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก กล่าวว่า “[ตามวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน] เล่ากันว่า ปีกุนเหมาะแก่การลงทุนและการทำกำไร ขอให้พวกเราส่งเสริมการลงทุนและการไปมาหาสู่กันทางการค้าต่อไปเพื่อประโยชน์ร่วมกัน”
เทศกาลตรุษจีนได้เผยแพร่วัฒนธรรมดั้งเดิมของจีนยังทั่วโลกโดยแสดงให้เห็นว่า ชาวจีนแสวงหาความสมานฉันท์ อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน และความเป็นสิริมงคล ขณะเดียวกัน เทศกาลตรุษจีนยังกลายเป็นตัวเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนระหว่างจีน ซึ่งเป็นประเทศใหญ่อันดับสองทางเศรษฐกิจและทั่วโลก การสนับสนุนการแลกเปลี่ยนและการไปมาหากันสู่ของจีนเช่นนี้ เป็นการปฏิบัติอันน่าชื่นชมซึ่งเติบโตสวนทางกับกระแสการพัฒนาเศรษฐกิจโลก โดยในปี 2018 ปริมาณการค้าของจีนทำสถิติมากกว่า 90 ล้านล้านหยวนเป็นครั้งแรก รายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงของประชาชนเฉลี่ย 28,228 หยวนต่อคน ซึ่งเมื่อหักลบอัตราเงินเฟ้อแล้วถือว่าเติบโต 6.5% ชาวจีนที่มีเงินเก็บสะสม มีความสุข และรู้สึกมั่นคงมากขึ้น นิยมฉลองตรุษจีนด้วยการไปเที่ยวพักผ่อนในต่างแดนเช่นเดิม
องค์กรการท่องเที่ยวจีนคาดว่า ในช่วงตรุษจีนปีนี้ ชาวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศอาจมีถึง 7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว โดยไทย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และประเทศเพื่อนบ้านของจีน เป็นเป้าหมายการเดินทางยอดนิยม นางโอลีเวีย รักเกิลส์-บรัซย์ (Olivia Ruggles-Brise) ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและสื่อสารองค์กร คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวโลก (WTTC) กล่าวว่า การที่จำนวนชาวจีนที่สามารถใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ได้ส่งเสริมตลาดในประเทศเป้าหมายการเดินทางที่อยู่ใกล้เคียง เช่น กรุงเทพฯ และกรุงจาการ์ตา
บทบาทของนักท่องเที่ยวจีนในการส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศเป้าหมายการเดินทางนั้นไม่ควรมองข้าม โดยในปี 2018 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปอินโดนีเซียมีจำนวนเกือบ 2 ล้านคน มากที่สุดในบรรดานักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น นายอารีฟ ยะห์ยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนของชาวจีนที่ไปเที่ยวต่างประเทศมีมากกว่า 1,100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อครั้ง นับเป็นแหล่งรายได้จากต่างประเทศที่มั่นคงของอินโดนีเซีย นอกจากนี้ สถิติจากอังกฤษยังชี้ให้เห็นว่า ปี 2017 นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปเที่ยวอังกฤษมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปี 2016 หน่วยงานการท่องเที่ยวของอังกฤษจึงถือจีนเป็น “ประเทศที่นักท่องเที่ยวมีคุณค่ามากที่สุดในโลก”
ความนิยมด้านการเที่ยวต่างประเทศในช่วงเทศกาลปีใหม่ของชาวจีน เป็นกำลังช่วยเปิดฉาก “ปีแห่งการท่องเที่ยวจีน-ลาว” “ปีแห่งการท่องเที่ยวจีน-นิวซีแลนด์” และ “ปีแห่งการท่องเที่ยวจีน-ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก” ปี 2019 ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ ชาวจีนที่เดินทางเที่ยวในประเทศต่าง ๆ ไม่เพียงแต่ช่วยแลกเปลี่ยนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมกับประเทศนั้น ๆ หากยังเป็นการแสดงถึงจิตใจ ความมีชีวิตชีวา และความมั่นใจของชาวจีนให้แก่ทั่วโลก
Tim/Ldan/Zhou