วันที่ 14 กุมภาพันธ์ การประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยปัญหาตะวันออกกลางปิดฉากลงที่กรุงวอร์ซอ เมืองหลวงของโปแลนด์ การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นโดยสหรัฐฯ และโปแลนด์ แต่แท้ที่จริงนำโดยสหรัฐฯ หัวข้อหลักของการประชุม คือ “การส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของตะวันออกกลางในอนาคต” อภิปรายวิธีการยับยั้ง “ภัยคุกคาม” จากอิหร่านที่มีต่อตะวันออกกลาง จึงทำให้อิหร่านแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง ขณะที่รัสเซียปฏิเสธการเข้าร่วมประชุม ส่วนประเทศใหญ่ต่าง ๆ ของยุโรป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ต่างมีปฏิกิริยาเย็นชาในที่ประชุม ทำให้ไม่มีผลที่จริงจังใด ๆ จากการประชุม สำหรับสหรัฐฯ การจัดการประชุมที่วอร์ซอครั้งนี้ ด้านหนึ่งต้องการที่จะสร้างแรงกระตุ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อหยุดยั้งอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่การประชุมความมั่นคงมิวนิกใกล้จะจัดขึ้น ซึ่งในขณะนั้นปัญหาอิหร่านย่อมจะกำลังเป็นประเด็นร้อนแรงอย่างแน่นอน ฝ่ายสหรัฐฯ เองหมายใช้การประชุมกรุงวอร์ซอครั้งนี้ปูทางการประชุมความมั่นคงเมืองมิวนิก ล่วงหน้า พร้อมทั้งสร้างบรรยากาศที่ความเห็นโดยทั่วไปของสาธารณชนเป็นผลดีต่อสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน การประชุมครั้งนี้ ยังเปิดโอกาสให้สหรัฐฯ แสดง “ความพยายามที่เกี่ยวข้อง” กับพันธมิตรในตะวันออกกลางโดยเฉพาะอิสราเอลและซาอุดิอาระเบีย ในช่วงเวลายาวนานที่ผ่านมา แม้ว่าทำเนียบขาวของสหรัฐฯ จะใช้ท่าทีแข็งกร้าวต่อปัญหาอิหร่าน แต่ประเทศพันธมิตรต่างๆ ในตะวันออกกลางกลับต่างตำหนิสหรัฐฯ ที่ไม่ใช้มาตรการจริงจังเพื่อยับยั้ง “ภัยคุกคาม” จากอิหร่าน แม้ว่าสหรัฐฯ แสดงท่าทีผ่านปฏิกิริยาในเวทีระหว่างประเทศหวังจะเอาใจประเทศพันธมิตรในตะวันออกกลาง ด้วยแสดงท่าทีอันแข็งกร้าวต่อปัญหาอิหร่านแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การประชุมวอร์ซอครั้งนี้ได้รับการตอบสนองอย่างเย็นชาและคัดค้านจากประเทศส่วนใหญ่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ประชาคมโลกมีมุมมองที่แตกต่างกันอย่างมากต่อปัญหาอิหร่าน ขณะเดียวกันยังเป็นการแสดงความตั้งใจของสหรัฐฯ ที่จะจัดตั้งพันธมิตรต่อต้านอิหร่านในระยะเวลาอันใกล้ ขณะที่สันติภาพในตะวันออกลางยังคงเป็นหนทางอีกยาวไกล
Tim/kt/cai