จีนมั่นใจบทบาทศูนย์ออฟชอร์เงินหยวนจะสร้างผลกำไรมหาศาลให้กับอังกฤษ

2019-02-20 17:02:04 | CRI
Share with:

图片默认标题_fororder_20190220RMB1

ครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว เมื่อเผชิญกับอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่มีแรงกดดันมากขึ้น การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มีความไม่แน่นอน ตลาดทุนในโลกเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เงินหยวน(เหรินหมินปี้ RMB)ในแง่ร้าย แต่อังกฤษที่เป็นมหาประเทศด้านการเงินกลับมองอนาคตของเงินหยวนในแง่ดี และได้รับผลกำไรอย่างมาก เว็บไซต์สำนักข่าวต่างประเทศ Financial Times รายงานว่า ปลายปีที่แล้ว ยอดการค้าเงินหยวนในกรุงลอนดอนมีมากกว่ายอดการค้าระหว่างเงินปอนด์และยูโร สถิติของธนาคารอังกฤษก็ระบุว่า เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ยอดการค้าเงินหยวนสูงถึง 73,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อวัน ซึ่งแสดงว่าอังกฤษเป็นศูนย์การซื้อขายเงินหยวนที่ใหญ่ที่สุดในโลกนอกเหนือจากประเทศจีน

การเพิ่มสัดส่วนเงินหยวนในตลาดการเงินของประเทศตนนั้น มีเงินปันผลดีอย่างเห็นได้ชัดสำหรับประเทศส่วนใหญ่ ซึ่งอังกฤษเป็นแบบอย่างที่ดีแสดงให้เห็นว่า กรุงลอนดอนในฐานะเป็นศูนย์กลางการค้าเงินตราต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของโลก ได้ก้าวขึ้นนำหน้าในเรื่องการค้าออฟชอร์เงินหยวน ไม่เพียงแต่เป็นผลดีต่อการรักษาฐานะตลาดการเงินสากล ยังทำให้อังกฤษได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงด้วย

การเปิดตลาดการเงินและเร่งฝีก้าวความเป็นสากลของเงินหยวนนั้น เป็นภารกิจสำคัญของจีนในการดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศรอบใหม่ ซึ่งกรุงลอนดอนเป็นศูนย์การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินเหยวน ตลาดต่างประเทศที่สำคัญ ต้องถือโอกาสลงมือตามสถานการณ์ ซึ่งพอจะคาดการณ์ได้ว่า เนื่องจากประเทศจีนมีศักยภาพที่เข้มแข็งและทุนสำรองเงินตราต่างประเทศจำนวนมาก ค่าเงินหยวนจึงมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ความเป็นสากลของเงินหยวนก็มีอนาคตอันสดใส ซึ่งตลาดการค้าเงินหยวนต่างประเทศนี้ถือว่าเป็น ”เครื่องฟักไข่” ของนวัตกรรมการเงินของจีน โดยมีส่วนช่วยผลักดันความเป็นสากลของเงินหยวน และเป็นหลักประกันที่สำคัญของการสร้างสรรค์ตามแผน “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” มองในแง่ปัจจุบันและระยะยาว ก็จะเป็นโอกาสเชิงประวัติศาสตร์ของทั้งจีนและประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้องด้วย

Yim/Ping+Sun/Cai

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (14-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (13-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (13-11-2567)

许平平