สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า วันที่ 22 กุมภาพันธ์ กรมการเมืองคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน จัดประชุมเพื่ออภิปรายรายงานผลงานรัฐบาล ที่จะยื่นให้การประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน ชุดที่ 13 ครั้งที่ 2 พิจารณาตรวจสอบ นอกจากนี้ การประชุมดังกล่าวยังได้พิจารณาตรวจสอบรายงานอีกหลายฉบับ เช่น รายงานผลงานสำคัญของหน่วยงานส่วนกลางที่รับผิดชอบด้านตรวจสอบวินัยเจ้าหน้าที่ในปี 2018 รายงานของหน่วยงานส่วนกลางที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบวินัยเจ้าหน้าที่ในการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน และกฎระเบียบเกี่ยวกับการประเมินผลงานของเจ้าหน้าที่พรรคและรัฐบาล โดยมีนายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่ พรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นประธานการประชุม

ที่ประชุมมีมติว่า ในรอบปีที่ผ่านมา จีนได้เผชิญกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่มีความสลับซับซ้อนและล่อแหลมมาก อีกทั้งยังมีภารกิจการปฏิรูป การพัฒนา และการรักษาเสถียรภาพอันหนักหน่วง อย่างไรก็ตาม  คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีนายสี จิ้นผิง เป็นแกนนำได้นำพาพรรคและประชาชนชนชาติต่าง ๆ ทั่วประเทศจีน บรรลุเป้าหมายและภารกิจหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปี 2018  ตลอดจนมีความคืบหน้าสำคัญในการสร้างสังคมที่มีกินมีใช้

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเน้นว่า จะมีการยกระดับคุณภาพการพัฒนาให้สูงยิ่งขึ้น และผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างอุปทาน ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักต่อไป โดยการปฏิรูปจะใช้ตลาดเป็นตัวนำอย่างลึกซึ้ง ขยายการเปิดสู่ภายนอกให้มีระดับที่สูงขึ้น เร่งพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้มีความทันสมัย นอกจากนี้ ยังจะประกาศสงครามกับปัญหาความเสี่ยงด้านต่าง ๆ  รวมไปถึงปัญหาความยากจน และปัญหามลภาวะ ขณะที่จะทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้น การจ้างแรงงาน การเงิน การค้าต่างประเทศ การลงทุนจากต่างประเทศ การลงทุนภายในประเทศ และการคาดการณ์เศรษฐกิจมีความมั่นคง  เพื่อสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการสร้างสังคมที่มีกินมีใช้   และเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน

ที่ประชุมระบุว่า เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปีนี้ จีนต้องสานต่อนโยบายมหภาค นโยบายเชิงโครงสร้าง และนโยบายทางสังคมให้ดี ปฏิบัติตามนโยบายการคลังเชิงรุก นโยบายการเงินที่มีความสุขุมรอบคอบ และนโยบายที่ให้การจ้างงานมีความสำคัญในอันดับต้น ๆ จึงต้องทุ่มเทกำลังในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมสำหรับการประกอบธุรกิจให้ดีขึ้น บ่มเพาะพลังขับเคลื่อนใหม่แก่การพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาตลาดในประเทศที่แข็งแกร่ง ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจน สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับเขตชนบท ส่งเสริมการพัฒนาระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ อย่างสอดประสานกัน เสริมสร้างการแก้ไขปัญหามลภาวะ และการสร้างสรรค์อารยธรรมทางระบบนิเวศ ขณะที่ต้องลงลึกการปฏิรูปในด้านสำคัญ เพื่อส่งเสริมการเปิดสู่ภายนอกอย่างรอบด้าน ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้สูงขึ้น  รวมไปถึงต้องส่งเสริมการสร้างและการพัฒนาของรัฐบาล  

ที่ประชุมได้ชื่นชมผลงานของหน่วยงานส่วนกลาง ที่รับผิดชอบการตรวจสอบวินัยเจ้าหน้าที่ใน ปี 2018 และเห็นชอบแผนการปฏิบัติของหน่วยงานดังกล่าวในปีนี้ โดยที่ประชุมได้เน้นว่า ต้องพยายามตรวจสอบและเปิดโปงการกระทำทางการเมืองที่ออกนอกลู่นอกทาง มุ่งทำตาม นโยบาย และการวางแผนสำคัญของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ต้องปราบปรามพฤติกรรมการทำงานที่ไม่ก่อให้เกิดผลดีอย่างแท้จริง และการใช้อำนาจไม่ใช่เพื่อประชาชน การตรวจสอบวินัยนั้นต้องให้หน่วยงานต่าง ๆ  เช่น หน่วยตรวจสอบวินัยและองค์กรจัดตั้งของพรรค หน่วยงานตรวจสอบวินัย และหน่วยงานตรวจสอบบัญชีของรัฐบาลทำงานประสานกัน เพื่อรับรองให้การตรวจสอบครอบคลุมได้ทุกด้าน  

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เน้นว่า การดำเนินการตรวจสอบวินัยของโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนมีความจำเป็นอย่างยิ่ง องค์กรของพรรคทุกระดับต้องแก้ไขปัญหาที่พบจากการตรวจสอบวินัย และการปราบปรามการทุจริต รวมไปถึงวิธีการทำงานที่ไม่ถูกต้องในการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน  

ทั้งนี้ ที่ประชุมชี้ว่า ร่างระเบียบว่าด้วยการประเมินผลทำงานของเจ้าหน้าที่พรรคและรัฐมีความหมายสำคัญยิ่ง ต้องยึดแนวทางที่ถูกต้องในการประเมินผลงานเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ระดับต่าง ๆ มีความรับผิดชอบ มุ่งมั่นดำเนินการปฏิรูป สร้างนวัตกรรม และภารกิจสำคัญอื่น ๆ โดยผู้ที่สุจริตทางการเมือง และทุ่มเทกำลังอย่างเต็มที่ในหน้าที่การงานจะต้องได้รับการยกย่องและสนับสนุน ในขณะที่ผู้ที่ทำงานอย่างไม่มีสิทธิภาพ ไม่ทำงาน หรือทำงานในทางที่ไม่ถูกต้องจะต้องถูกตักเตือนหรือลงโทษ 

ที่ประชุมเน้นว่า ต้องใช้มาตรฐานทางการเมืองในการประเมินผลงานเจ้าหน้าที่โดยตลอด เพื่อรับประกันให้เจ้าหน้าที่ระดับต่าง ๆ ยึดมั่นในจุดยืน แนวทาง และหลักการทางการเมืองที่ตรงกับคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่มีนายสี จิ้นผิง เป็นแกนนำ ที่มุ่งปรับปรุงวิธีการประเนินผลงานเจ้าหน้าที่ให้ดียิ่งขึ้น ทำให้การประเมินผลงานเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ เป็นไปตามกฎระเบียบ และครอบคลุมทุกด้าน

(tim/cai)