ภายใต้ความสนใจและการติดตามจากทั่วโลก ผู้นำสหรัฐฯ และ เกาหลีเหนือ ได้จัดการพบปะ ครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ที่กรุงฮานอย เมืองหลวงเวียดนาม แต่สิ่งที่ทำให้สื่อมวลชนเสียตาย คือ การพบปะครั้งนี้ สองฝ่ายไม่ได้ลงนามเอกสารร่วมใด ๆ ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ระบุว่า การพบปะเป็นเวลา 2 วัน “มีประสิทธิผล” แต่ “ไม่ได้ลงนามเอกสารใด ๆ”
ตามแผนการที่กำหนดไว้ ช่วงเช้าวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้จัดการเจรจาแบบสองต่อสอง และการเจรจาระหว่างคณะตามลำดับ แต่การเจรจาสิ้นสุดลงก่อนกำหนด โดยขบวนรถของคณะผู้แทนทั้งสองประเทศเดินทางออกจากสถานที่จัดการเจรจา โดยไม่มีพิธีลงนามเอกสารร่วมตามแผนที่ได้วางไว้
ฝ่ายสหรัฐฯ ระบุว่า ระหว่างการเจรจา สองฝ่ายเกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับการยุติการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ แต่การเจรจาไม่ได้ล้มเหลว นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในการแถลงข่าวภายหลังการเจรจาว่า การเจรจามีความคืบหน้าอย่างมาก สองฝ่ายมีจุดยืนใกล้เคียงกันกว่าเดิม และยังเห็นด้วยว่าจะใช้ความพยายามร่วมกันต่อไป
ด้านนายรี ยองโฮ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ กล่าวที่กรุงฮานอย เมื่อเช้าวันที่ 1 มีนาคมว่า ในการเจรจา เกาหลีเหนือเพียงเรียกร้องให้ยกเลิกการคว่ำบาตรส่วนหนึ่ง คือ โครงการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ จากการคว่ำบาตรทั้งหมด 5 ประการ ที่สหประชาชาติมีมติระหว่างปี 2016 - 2017 หากสหรัฐฯ เห็นด้วยกับเงื่อนไขของเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือจะยุติอุปกรณ์ผลิตนิวเคลียร์ในย็อนพย็องอย่างถาวร นายลี ยอง โฮ ยังระบุต่อไปว่า ระหว่างการเจรจา สหรัฐฯ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือเพิ่มมาตรการอีกประการหนึ่ง นอกเหนือจากเรื่องอุปกรณ์นิวเคลียร์ที่ย็อนพย็อง ซึ่งเป็นการแสดงว่า สหรัฐฯ ไม่มีความพร้อมยอมรับแผนการของเกาหลีเหนือ
Tim/LR/Ci