เมื่อย่างเข้าสู่เดือนเมษายน ทั่วประเทศจีนจะมีความงดงาม จนมีภาษาจีนที่ว่า “ชุนหุยต้าตี้” แปลว่า พอย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิ พื้นที่จะถูกปกคลุมด้วยสีเขียวอันงดงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ส่วนเมษายนนี้ ก็ใกล้กับเทศกาลสงกรานต์ของคนไทย คงมีคนเตรียมตัวจะมาท่องเที่ยวปักกิ่งพร้อมญาติพี่น้อง วันนี้ จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งที่ชาวปักกิ่งและชาวจีนเองนิยมไปเที่ยวให้ ได้รู้จักกัน

ทะเลสาบโฮ่วไห่

ทะเลสาบโฮ่วไห่ หรือ สือช่าไห่ เป็นทะเลสาบธรรมชาติใจกลางกรุงปักกิ่ง สำนวนจีนว่า มีทะเลสาบสือช่าไห่ก่อนมีกรุงปักกิ่ง บ่งบอกว่าทะเลสาบนี้มีประวัติอันยาวนาน

แต่ไหนแต่ไรมา โฮ่วไห่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับชาวปักกิ่ง เนื่องจากมีสิ่งแวดล้อมสวยงาม มีบรรยากาศเมืองเต็มที่ ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านริมน้ำในภาคเหนือ ช่วงกว่า 200 ปี มีขุนนางชั้นสูงและเชื้อพระวงศ์มาสร้างบ้านบริเวณนี้

ปัจจุบัน โฮ่วไห่เป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศการใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมของคนปักกิ่ง มีหูถ่ง (ตรอกเล็กซอยน้อย)และบ้านซื่อเหอย่วนแบบโบราณ ไปเที่ยวโฮ่วไห่ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถสามล้อชมโบราณสถานและนั่งเรือสัมผัสทิวทัศน์ริมน้ำ ส่วนยามค่ำคืน โฮ่วไห่ยิ่งเป็นสถานที่ที่มีมนต์เสน่ห์ บ้านซื่อเหอย่วนโบราณส่วนใหญ่ได้รับการอนุรักษ์ และจัดเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเบียร์ นักท่องเที่ยวสามารถชิมอาหารทั้งจีนและนานาชาติพร้อมชมวิวทะเลสาบ ทั้งฟังเพลงและดูแสงสีต่างๆ ที่โฮ่วไห่มีร้านมุสลิมหลายเจ้าที่มีเชื่อเสียง เช่น ภัตตาคารเข่าโร่วจี้ เป็นร้านขายเนื้อย่างที่มีประวัติกว่า 100 ปี เนื้อวัวและเนื้อแพะที่มีคุณภาพดี หมักด้วยเครื่องปรุงสูตรลับ ย่างแล้วหอมอร่อย ทานมากแค่ไหนก็ไม่เลี่ยน นอกจากนี้ ยังมีหม้อไฟหนานเหมินที่รู้จักกันเป็นอย่างดี มีชาวปักกิ่งและชาวต่างถิ่นไปชิมกันมากจนต้องเข้าคิว โดดเด่นด้วยการใช้หม้อไฟทองแดงขนาดใหญ่ น้ำจิ้มงาอร่อยเป็นพิเศษ ประทับใจนักชิมเป็นอย่างยิ่ง

ตำหนักกองหวัง

ตำหนักกองหวังตั้งอยู่ในบริเวณโฮ่วไห่ ใจกลางกรุงปักกิ่ง เป็นตำหนักสมัยราชวงศ์ชิงที่ยังคงอนุรักษ์สภาพไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เป็นตัวแทนตำหนักที่สะท้อนวัฒนธรรมจีน กล่าวได้ว่า ตำหนักกองหวังเทียบเท่าประวัติราชวงศ์ชิงครึ่งหนึ่ง ตำหนักกองหวังเคยเป็นบ้านของนายเหอเซิน ขุนนางชั้นสูงสมัยจักรพรรดิเฉียนหลงมาก่อน แต่เหอเซินถูกยึดทรัพย์เนื่องจากทุจริตคอรัปชั่น เล่ากันว่าทรัพย์สินที่โกงไปนั้นเท่ากับรายได้การคลังของราชวงศ์ชิง 15 ปี ต่อจากนั้นสมัยจักรพรรดิเสียนเฟิงแห่งราชวงศ์ชิง(1851-1861) บ้านนี้กลายเป็นตำหนักของอี้ซิน เชื้อพระวงค์และตั้งชื่อใหม่เป็นตำหนักกองหวัง ซึ่งประกอบด้วยบ้านและอุทยาน มีความยาวจากเหนือไปใต้ประมาณ 330 เมตร ความกว้างจากตะวันออกไปตะวันตกประมาณ 180 เมตร พื้นที่ประมาณ 60,000 ตารางเมตร มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น งานแกะสลักที่ประณีต แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความร่ำรวยของเชื้อพระวงศ์ท่านนี้

ถ้าจะไปเที่ยวชมกงหวังฝู่ ต้องซื้อตั๋วและจัดเวลาให้ดี กงหวังฝู่เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลาเปิดประตูในไฮซีซั่น (เมษายน-ตุลาคม)คือ เวลา 07.30น.-16.30น.โลว์ซีซั่น (พฤศจิกายน-มีนาคม)คือเวลา 08.00น.-16.00น.จ่ายค่าเข้า 40 หยวน/คน

หอระฆังและหอกลอง

หอระฆังและหอกลองตั้งอยู่ในบริเวณโฮ่วไห่ เริ่มสร้างเมื่อปี 1272 เกิดไฟไหม้หลายครั้งและสร้างใหม่หลายครั้ง หอกลองที่มีอยู่ในปัจจุบันสร้างในช่วงปี 1368-1644 สมัยราชวงศ์หมิง หอระฆังสร้างขึ้นเมื่อปี 1636-1912 สมัยราชวงศ์ชิง สมัยโบราณ ชาวจีนแจ้งเวลาด้วยวิธีตีกลองและระฆัง หอระฆังและหอกลองมีที่ตั้งอยู่ในเส้นผ่าศูนย์กลางเมืองจากทางทิศใต้ไปเหนือ มีความสง่างาม เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์เมืองเก่าของกรุงปักกิ่ง

เปิดให้ชม  เวลา 09.00น.-16.30น.

ตั๋ว หอกลอง 20 หยวน หอระฆัง 15 หยวน

Bo/Ping/Ping