ท่านผู้ฟังครับ เมื่อเร็วๆ นี้ การประชุมสุดยอด “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้กล่าวคำปราศรัยในพิธีเปิดประชุมครั้งนี้
นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อเร็วๆนี้ว่า 6 ปีนับตั้งแต่จีนเสนอข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”เป็นต้นมา “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ได้กลายเป็นช่องทางความร่วมมือที่มีขนาดใหญ่สุดของโลก อีกทั้งยังเป็นโครงการสาธารณะระดับโลกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จนถึงขณะนี้ มี 123 ประเทศ และ 29 องค์กรระหว่างประเทศได้ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กับจีน พวกเขาได้ให้คะแนนเสียงที่สูงในการสนับสนุนและเชื่อมั่นข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”
การสร้าง“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ได้ยึดมั่นในหลักการร่วมปรึกษาหารือ และร่วมมือกันเพื่อชัยชนะร่วมกันมาโดยตลอด ข้อริเริ่มนี้ได้สร้างโอกาสมหาศาลให้แก่ทุกฝ่าย จากความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ทำให้แอฟริกาตะวันออกมีทางด่วนสายแรก มัลดีฟส์ได้สร้างสะพานข้ามทะเลแห่งแรก เบลารุสเริ่มมีอุตสาหกรรมผลิตรถโดยสารส่วนตัว คาซัคสถานเริ่มมีเส้นทางออกสู่ทะเล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังสร้างทางรถไฟความเร็วสูง ภูมิภาคเอเชีย-ยุโรปเริ่มได้รับประโยชน์จากบริการขนส่งสินค้าทางรถไฟเป็นประจำที่เชื่อมต่อทวีปเอเชียและยุโรป ซึ่งเป็นบริการขนส่งสินค้าทางรถไฟที่มีระยะทางยาวที่สุดในภูมิภาคนี้ ที่ประเทศเคนยา ทางรถไฟมอมบาซา-ไนโรบีที่ได้รับขนานนามว่า “โครงการแห่งศตวรรษ” ได้สร้างเสร็จเรียบร้อย และเปิดเดินรถอย่างเป็นทางการ โครงการนี้ได้สร้างโอกาสการมีงานทำประมาณ 50,000 ตำแหน่งให้แก่ประเทศนี้ และทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของเคนยาเพิ่มขึ้นอีก 1.5% ที่ประเทศอุซเบกิสถาน คนงานจีนร่วมมือกับคนงานท้องถิ่น ใช้เวลาเพียง 900 วันเท่านั้น ก็ได้สร้างอุโมงค์ทางรถไฟยาว 19 กิโลเมตรในพื้นที่เขตเขาสูงชันสำเร็จ ทำให้คนในพื้นที่ใช้เวลาเพียง 900 วินาทีเท่านั้นก็สามารถข้ามพื้นที่เขตเขาดังกล่าวได้ ข้อเท็จจริงจำนวนมหาศาลเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ไม่ใช่เป็นกับดักหนี้สิน ที่จะทำให้บางประเทศต้องตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก แต่เป็นประโยชน์สำหรับประชาชนในท้องถิ่น ไม่เป็นเครื่องมือทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่เป็นโอกาสการพัฒนาร่วมกัน การร่วมพัฒนา “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” นั้นทำให้ประเทศต่างๆ สามารถพัฒนารวดเร็วยิ่งขึ้น และช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศรายทางให้สูงขึ้น อีกทั้งยังทำให้มองเห็นอนาคตที่ประเทศต่างๆจะอำนวยประโยชน์แก่กัน และได้ชัยชนะร่วมกัน
แน่นอน ข้อริเริ่มใหม่ๆทุกอย่างต้องการเวลาการพัฒนาต่อไป จีนยินดีรับฟังข้อเสนอเชิงสร้างสรรค์จากประเทศที่มีส่วนร่วมในความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงหลักการร่วมปรึกษาหารือ ร่วมมือกันเพื่อชัยชนะร่วมกันอย่างแท้จริง จีนเชื่อมั่นว่า ด้วยการใช้ความพยายามของทุกฝ่าย ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”จะทำให้เส้นทางสายไหมโบราณมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้งในยุคสมัยใหม่ และจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้ชนชาติและประเทศต่างๆ ทั่วโลกร่วมกันสร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน
นายหวัง อี้ ยังกล่าวอีกว่า จีน-แอฟริกาเป็นพี่น้องที่ดี มีความผูกพันกันอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-แอฟริกาอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดเป็นประวัติการ ความร่วมมือระหว่างจีน-แอฟริกาจะเป็นแบบอย่างแห่งการพัฒนาความร่วมมือกับประเทศอื่นของแอฟริกา
จากการใช้ความพยายามมาเป็นเวลาหลายสิบปี ปัจจุบัน ความร่วมมือระหว่างจีน-แอฟริกามีความแข็งแกร่งมาก จนไม่มีอิทธิพลใดสามารถเข้ามาทำลายได้ ขั้นตอนต่อไป จีนจะปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการสำหรับแอฟริกา 8 ข้อที่ได้ประกาศระหว่างการประชุมผู้นำเกี่ยวกับความร่วมมือจีน-แอฟริกา ณ กรุงปักกิ่งเมื่อปี 2018 อีกทั้งจะลงลึกความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ต่อไป จากการกุมโอกาสสองประการดังกล่าว เราจะสามารถสร้างประชาคมจีน-แอฟริกาที่มีอนาคตร่วมกันให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน ความร่วมมือระหว่างจีน-แอฟริกาได้ประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ แต่นี่ก็ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และใส่ร้ายป้ายสีเกิดขึ้นกับจีน อย่างไรก็ตาม จีน-แอฟริกามีความไว้เนื้อเชื่อใจกันในระดับสูงมาก มิตรภาพระหว่างจีน-แอฟริกาผ่านการทดสอบมาเป็นเวลายาวนาน ความสำเร็จจากความร่วมมือระหว่างจีน-แอฟริกาได้ปรากฏให้เห็นในทั่วภูมิภาคแอฟริกา ผู้นำประเทศและบุคคลที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในวงการต่างๆ ของแอฟริกาต่างออกมาปฏิเสธคำใส่ร้ายป้ายสีต่างๆนาๆต่อจีน เช่น จีนสร้าง “กับดักหนี้สิน” หรือจีนสร้างอิทธิพลอาณานิคมยุคใหม่ ข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า คำใส่ร้ายป้ายสีจีนเหล่านี้ไม่ได้รับความสนใจใดๆจากชาวแอฟริกัน
ความร่วมมือระหว่างจีน-แอฟริกาเป็นความร่วมมือแบบเปิดกว้างมา โดยตลอด การพัฒนาของแอฟริกาต้องการการลงทุนจากประชาคมระหว่างประเทศมากขึ้น จีนยินดีที่จะแสดงบทบาทที่เป็นแบบอย่างในการดำเนินความร่วมมือกับแอฟริกา กระตุ้นให้มีประเทศมากขึ้นหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับแอฟริกา ลงทุนในแอฟริกา เมื่อแต่ละประเทศต่างออกมาแสดงบทบาทของตน เราก็สามารถผนึกกำลังให้เป็นหนึ่งเดียว ร่วมกันใช้ความพยายามเพื่อสันติภาพและการพัฒนาของแอฟริกา
ท่านผู้ฟังครับ ช่วงเวลา 6 ปี ที่ผ่านมานับตั้งแต่จีนเสนอข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” มีการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เป็นจำนวนมากในประเทศรายทาง ซึ่ง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้ช่วยให้การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้เติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิผล และทำให้พลังขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้มีความแข็งแกร่งขึ้น
หัวหน้าคณะกรรมการการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติจีนกล่าวเมื่อเร็วๆนี้ว่า จากนี้ไป จีนจะขยายขอบเขตในการพัฒนาความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” โดยจะดำเนินความร่วมมือกับบริษัทฝ่ายที่ 3 ในการดำเนินโครงการและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
นายหวัง เสี่ยวหลง อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า ช่วงเวลา 6 ปี นับตั้งแต่จีนเสนอข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เป็นต้นมา ประชาคมโลกมีความเห็นเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับการพัฒนา “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” มากขึ้นและลงลึกยิ่งขึ้น จนถึงขณะนี้ มี 123 ประเทศ และ 29 องค์กรระหว่างประเทศลงนามในเอกสารเกี่ยวกับความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”กับจีน ช่วงเวลา 6 ปีที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานจำนวนมาก เพิ่มพลังขับเคลื่อนที่เข้มแข็งให้กับทุกฝ่าย เพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจ ขณะนี้ ผลจากการร่วมมือด้านอุตสาหกรรมภายใต้ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ค่อยๆ ปรากฏออกมาให้เห็น มีประเทศที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นในห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่อุปทานของโลก และมีพลังขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศที่เข้มแข็งขึ้น ประเทศที่เคยล้าหลังในด้านการพัฒนาเหล่านี้กำลังกลายเป็นจุดที่จะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
เมื่อเร็วๆ นี้ การประชุมสัมมนาเกี่ยวกับการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นแบบอย่างภายใต้ความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จัดขึ้นที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน จะสังเกตเห็นได้ว่า การดำเนินโครงการแบบอย่างเหล่านี้ล้วนยึดมั่นตามหลักการด้วยดี คือ ร่วมปรึกษาหารือกัน เป็นไปตามกลไกการตลาด ให้หลายฝ่ายร่วมมือกัน และให้ความสำคัญกับการปรับปรุงคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน
นายโจว เสี่ยวเฟย รองเลขาธิการคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนกล่าวว่า จากนี้ไป จีนจะขยายขอบเขตความร่วมมือในด้านโครงการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานขนาดใหญ่“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ต่อไป โดยจะดำเนินความร่วมมือกับบริษัทฝ่ายที่ 3 มากขึ้น
ท่านผู้ฟังครับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยกล่าวในพิธีเปิดการประชุมสุดยอด “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศครั้งแรก ว่า เมื่อ 2,000 กว่าปีก่อน บรรพบุรุษของชาวจีนบุกเบิกเส้นทางโดยข้ามทุ่งหญ้าและทะเลทรายอันเวิ้งว้างกว้างไกลด้วยความยากลำบากมาก เพื่อเปิดเส้นทางสายไหมทางบกที่เชื่อมต่อเอเชีย-ยุโรป-แอฟริกา บรรพบุรุษของชาวจีนยังได้เดินเรือต่อสู้กับคลื่นทะเลที่รุนแรง เพื่อเปิดเส้นทางสายไหมทางทะเลที่เชื่อมภาคตะวันออกและตะวันตกของโลก เส้นทางสายไหมโบราณได้เปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆสามารถไปมาหาสู่กันอย่างฉันมิตรได้ และได้เปิดบันทึกหน้าใหม่แห่งการพัฒนา ความก้าวหน้าของมวลมนุษยชาติ ทุกวันนี้ “ตัวไหมเนื้อสัมฤทธิ์ชุบทอง” โบราณวัตถุเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์นับพันปี ยังคงจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มณฑลส่านซีของจีน รวมทั้ง “ซากเรือโบราณจีน” ที่มีประวัติศาสตร์นับพันปีเช่นกัน ซึ่งพบในบริเวณน่านน้ำหมู่เกาะเบอลีตุงของอินโดนีเซีย ล้วนเป็นสักขีพยานที่ดีของประวัติศาสตร์การบุกเบิกเส้นทางสายไหมของชาวจีน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า เส้นทางสายไหมที่มีระยะทางนับหมื่นนับพันลี้ และมีประวัติศาสตร์นับพันปีเป็นแหล่งกำเนิดเจตนารมณ์แห่งสันติภาพ ความร่วมมือ การเปิดกว้าง การยอมรับกัน การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน การอำนวยประโยชน์แก่กันและการมีชัยชนะร่วมกัน นี่เป็นมรดกอันล้ำค่าของอารยธรรมแห่งมวลมนุษยชาติ