เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทหัวเหวยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่สำนักงานใหญ่ของหัวเหวยว่า การศึกษาขั้นพื้นฐานและอาชีวศึกษาควรได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัญหามูลฐานของการค้าจีน-สหรัฐฯ คือเรื่องของระดับการศึกษา
นายเหริน เจิ้งเฟยได้ให้สัมภาษณ์ว่า รากฐานของประเทศที่เข้มแข็งคือการมีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เช่น ทางรถไฟ ทางหลวง สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคม การสร้างเมือง อุปกรณ์ในขั้นตอนต่างๆด้านน้ำประปา เป็นต้น แต่สิ่งเหล่านี้ไม่มีจิตวิญญาณ จิตวิญญาณจะอยู่ที่วัฒนธรรม ปรัชญา การศึกษา อยู่ในคุณภาพทางวัฒนธรรมของมนุษย์
นายเหริน เจิ้งเฟยกล่าวว่า ในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม มีการศึกษาเพียงระดับประถมก็สามารถทำงานได้ แต่ในสังคมอัจฉริยะ ระดับการศึกษาได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก
นายเหริน เจิ้นเฟยกล่าวว่า ท้ายที่สุดสังคมจะต้องเดินเข้าสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ ในสายการผลิตของบริษัทหัวเหวยเกือบไม่มีคนงาน สายการผลิตหลายร้อยหลายพันเส้นในอนาคตจะเป็นแบบอัตโนมัติ ในเวลานั้นถ้าคุณวุฒิทางการศึกษาไม่เพียงพอ ไม่ได้รับการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยหรือระดับอาชีวศึกษา ไม่มีความรู้ภาษาอังกฤษและคอมพิวเตอร์ ก็จะไม่ได้รับแม้โอกาสการเป็นผู้ใช้แรงงาน และจากบริษัทหัวเหวยขยายออกไปเป็นประเทศหนึ่ง ทุกประเทศก็ต้องพัฒนาถึงขั้นนี้ด้วยอย่างแน่นอน มิฉะนั้นประเทศก็จะไม่มีกำลังแข่งขัน นายเหริน เจิ้งเฟยยังกล่าวว่า ปัญหามูลฐานของการค้าจีน-สหรัฐฯ ก็คือเรื่องระดับการศึกษา ประเทศต้องเปิดสู่ภายนอกจึงจะมีอนาคต การเปิดประเทศต้องมีสุขภาพแข็งแรง สุขภาพจะแข็งแรงได้จำต้องมีคุณภาพทางวัฒนธรรม
(Yim/Zheng)