วันที่ 12 มิ.ย. “รายงานการลงทุนโลก 2019” ที่ออกโดยที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาและการค้าแสดงให้เห็นว่าจากอิทธิพลของนโยบายปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ และการตรวจสอบการลงทุนต่างประเทศของบางประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น ทำให้ยอดลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทั่วโลกในปี 2018 อยู่ที่ 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 41.6 ล้านล้านบาท) ลดลง 13% เมื่อเทียบกับปี 2017 ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว
ในจำนวนนี้ปริมาณเงินทุน FDI ที่ไหลเข้าของสหรัฐฯ ลดลง 9% อยู่ที่ 252,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8,064,000 ล้านบาท) แต่สหรัฐฯ ก็ยังคงเป็นประเทศที่มีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามากเป็นอันดับหนึ่งของโลกอยู่ อย่างไรก็ตามจีนดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเกือบ 4% คือมีถึงประมาณ 139,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,448,000 ล้านบาท) ยังคงเป็นประเทศที่มีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามากเป็นอันดับสองของโลกต่อไป