การประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ครั้งที่ 14 เริ่มขึ้นที่เมืองโอซากาของญี่ปุ่น วันที่ 28 มิถุนายน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวปราศรัยสำคัญในที่ประชุม เรียกร้องให้ฝ่ายต่าง ๆ ร่วมกันสร้างเศรษฐกิจโลกที่มีคุณภาพสูง พร้อมทั้งประกาศว่า จีนจะใช้มาตรการ 5 ประการในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเปิดตลาดสู่ภายนอกให้กว้างขึ้น ตลอดจนเป็นแนวทางสำหรับเศรษฐกิจโลกและความร่วมมือในการบริหารโลก
มาตรการ 5 ประกาศที่นายสี จิ้นผิง ประกาศนั้น รวมถึง การขึ้นบัญชีดำการอนุมัติการการลงทุนจากต่างประเทศ การเปิดกว้างสู่ภายนอกด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรมเหมืองแร่ อุตสาหกรรมการผลิต และการบริการ รวมถึงการจัดตั้งเขตทดลองการค้าเสรีอีก 6 แห่ง ส่งเสริมและขยายการนำเข้า ลดระดับภาษีศุลกากรให้ต่ำลง และปรับปรุงบรรยากาศการประกอบกิจให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ปี 2019 จีนจะบังคับใช้ระบบกฎหมายว่าด้วยการลงทุนสำหรับชาวต่างชาติฉบับใหม่ ยกเลิกข้อจำกัดแก่การลงทุนที่อยู่นอกบัญชีดำทั้งหมด ให้สิทธิเสมอภาคต่อนักธุรกิจต่างชาติอย่างรอบด้าน ทุ่มเทกำลังผลักดันการเจรจาทางการค้า เพื่อบรรลุข้อตกลงความสัมพันธ์หุ้นส่วนเศรษฐกิจรอบด้านในภูมิภาคโดยเร็ววัน ตลอดจนเร่งการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการลงทุนระหว่างจีน-ยุโรป และการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีจีน–ญี่ปุ่น–เกาหลีใต้
ในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ สร้างความขัดแย้งทางการค้าอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่จีนใช้มาตรการสำคัญจำนวนหนึ่งเพื่อขยายการเปิดสู่ภายนอก ทำให้เศรษฐกิจจีนพัฒนาอย่างมั่นคงในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา ขณะที่ยอดการนำเข้าส่งออกสูงถึง 12.1 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว มีการใช้เงินทุนต่างประเทศ 369,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ความเร็วในการเติบโตคิดเป็น 5 เท่าของระยะเดียวกันของปีที่แล้ว แม้ว่าสหรัฐฯ สร้างกำแพงการค้าขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถกระทบต่อความตั้งใจของจีนที่จะเปิดประตูกว้างขึ้น
ปัจจุบัน ลัทธิอนุรักษ์นิยมและลัทธิดำเนินการโดยลำพังฝ่ายเดียวมีแนวโน้มลุกลามอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอุตสาหกรรมการผลิตและการเงินทั่วโลก ความไม่แน่นอนและความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่จีนใช้ความร่วมมือภายในกลไก G20 ส่งสัญญาณอันแข็งขันต่อเศรษฐกิจโลก ช่วยเพิ่มความมั่นใจต่อตลาดโลกและนำความหวังมาสู่ประชาชนประเทศต่าง ๆ
(Tim/Lin/zhou)