ในงานแถลงข่าวหลังการประชุมสุดยอด G20 ทรัมป์กล่าวว่าบริษัทสหรัฐฯ สามารถขายชิ้นส่วนอะไหล่ให้กับหวาเหวยต่อไปได้

ข่าวที่สื่อออนไลน์ออกเกี่ยวกับเรื่องที่ทรัมป์ “ช่วย” หวาเหวยได้แพร่สะพัดโดยทันที  ทรัมป์ตั้งใจ “ช่วย” หวาเหวยจริงหรือ?

ตามรายงานเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ของหนังสือพิมพ์ New York Times  แม้ว่าเจ้าหน้าที่ทรัมป์จะมีคำสั่งห้ามขายเทคโนโลยีอเมริกันให้กับบริษัทหวาเหวย แต่บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Intel และ Micron ยังคงหา “ทางรับมือ” ได้  ด้วยการใช้มาตรฐานการรับรอง “Made in the  USA.”   พวกเขาได้ขายสินค้ามูลค่านับล้านเหรียญให้กับบริษัทหวาเหวย  นอกจากนี้หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal ก็ยังได้กล่าวถึงบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิปโทรศัพท์มือถือที่สำคัญ (Qualcomm Inc., QCOM) ว่า QCOM ก็ได้กลับไปจัดส่งชิ้นส่วนให้กับหวาเหวยอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา John Neuffer ประธานสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (SIA) กล่าวด้วยความกังวลว่าการกระทำอันผิดที่จำกัดการขายของบริษัทสหรัฐฯ ในตลาดหลักจะเป็นผลให้กำลังในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ อ่อนลง

ความกังวลนี้ไม่ไร้สาระ  บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ และยุโรปต่างกังวลว่าการขาดแคลนของอุปทานที่เกิดขึ้นนี้จะผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศเอง และในที่สุดบริษัทจีนจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดเซมิคอนดักเตอร์ในจีนที่มีมูลค่าถึง 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

ดังนั้นสำหรับทรัมป์แล้ว การประกาศยกเลิกการห้ามขายสินค้าให้บริษัทหวาเหวยในเวลานี้ ไม่เพียง “แสดงผลดี” ต่อยักษ์ใหญ่ของเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ ยังเป็นการให้หนทางกลับตัวของตนเอง  เรียกได้ว่า “ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว”