เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายเกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงที่กรุงปักกิ่งว่า คำพูดของสหรัฐฯ ที่ว่าจีนหวังจะบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เนื่องเพราะเศรษฐกิจจีนได้ชะลอตัวลงนั้น เป็นการโน้มนำให้เกิดความเข้าใจผิด
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า การเติบโตในไตรมาสที่ 2 ของจีนเชื่องช้าที่สุดในรอบ 27 ปี ซึ่งมีวิสาหกิจนับพันแห่งออกจากจีน ด้วยเหตุนี้จีนจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ต่อคำพูดดังกล่าวนี้ นายเกิ่ง ส่วงโต้แย้งว่า ภายใต้สภาพที่การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง มีปัจจัยไม่แน่นอนภายนอกได้เพิ่มมากขึ้นนี้ ยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของจีนในครึ่งแรกของปีนี้ มีการเติบโตเป็นร้อยละ 6.3 ซึ่งนับเป็นผลงานที่ไม่เลวและนำหน้าในแวดวงเศรษฐกิจหลักของโลก
นายเกิ่ง ส่วงเร่งรัดว่า สหรัฐฯ ควรใช้ความพยายามร่วมกับจีน อยู่บนพื้นฐานเคารพกันและกัน ปฏิบัติต่อกันอย่างเสมอภาค ใช้การเจรจาและปรึกษาหารือแก้ไขข้อขัดแย้งทางเศรษฐกิจการค้า และบรรลุข้อตกลงที่อำนวยประโยชน์แก่กันและได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ไม่เพียงแต่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนจีนและสหรัฐฯ เท่านั้น หากยังสอดคล้องกับการรอคอยทั่วไปของประชาคมโลกอีกด้วย
(Yim/zheng)