เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มที่ใช้ท่าทีแข็งกร้าวต่อจีนจำนวนกว่า 100 คนของสหรัฐฯ ได้เขียนจดหมายลงนามถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยใส่ร้ายจีนดำเนินลัทธิแผ่ขยายอิทธิพล และใช้กำลังของชาติข่มขู่ประเทศอื่น นี่เป็นการกระทำแบบกลั่นแกล้งทำร้ายผู้อื่นลับหลัง และที่สำคัญคือหลอกลวงตนเอง
หลายปีมานี้ เมื่อพิจารณาจากภูมิหลังของวิกฤติต่างๆ ด้านเสถียรภาพของโลก มักจะพบเงาร่างของสหรัฐฯเสมอ ตัวอย่างเช่น สหรัฐฯ ถือการต่อต้านลัทธิก่อการร้ายเป็นข้ออ้าง ก่อให้เกิดสงครามที่อัฟกานิสถานและอิรัก อีกทั้งก่อการโจมตีทางการทหารที่ซีเรีย เป็นเหตุให้มีราษฎรจำนวนมหาศาลบาดเจ็บล้มตาย ตลอดจนก่อให้เกิดวิกฤติผู้ลี้ภัยในบรรดาประเทศยุโรป
และหลังจากรัฐบาลชุดทรัมป์เข้าดำรงตำแหน่งแล้ว ก็ยิ่งดำเนินนโยบายลำพังฝ่ายเดียวทวีคูณหนักยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น - ยอมรับกรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ซึ่งละเมิดมติของสหประชาชาติและความเข้าใจร่วมกันของประชาคมโลก
สหรัฐฯ ยังถอนตัวออกจากข้อตกลงรอบด้านเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านตามลำพัง เป็นเหตุให้สถานการณ์ตะวันออกกลางตึงเครียดยิ่งขึ้น
สหรัฐฯ ยกเลิกสนธิสัญญาว่าด้วยขีปนาวุธพิสัยกลางระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย ซึ่งได้สั่นคลอนหลักการด้านความปลอดภัยทางยุทธศาสตร์ของโลก
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังชูธงปกป้องเสรีภาพการเดินเรือ ส่งเรือรบไปอวดแสนยานุภาพในน่านน้ำของหลายสิบประเทศทั่วโลก
สถิติจากสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสต็อกโฮล์มแสดงว่า เมื่อปี 2018 งบประมาณด้านการทหารของสหรัฐฯ มีมากกว่า 640,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดอันดับแรกของโลก เป็นมูลค่ารวมของงบประมาณทางการทหารของ 8 ประเทศที่มีจำนวนมากต่อจากสหรัฐฯ
สมุดปกขาวว่าด้วยกิจการกลาโหมจีนในยุคใหม่ระบุอย่างชัดเจนว่า จีนไม่ดำเนินนโยบายลัทธิครองความเป็นใหญ่ และไม่ขยายอิทธิพล ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ด้านกลาโหมของจีน สมุดปกขาวดังกล่าวยังระบุว่า เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ของโลก สัดส่วนระหว่างงบประมาณด้านการทหารกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ และงบประมาณด้านการทหารเฉลี่ยต่อคนต่างก็อยู่ในเกณฑ์ต่ำ
ตัวอย่างเช่น งบประมาณด้านการทหารเฉลี่ยต่อคนของจีนประจำปี 2017 เท่ากับ 750 หยวน เป็นเพียง 5% ของงบประมาณด้านการทหารเฉลี่ยต่อคนของสหรัฐฯ
จีนและสหรัฐฯในฐานะเป็นประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ควรต้องร่วมมือกันจัดการปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน สถานการณ์ตะวันออกกลาง และปัญหาด้านเสถียรภาพร้อนแรงอื่นๆ ของโลก ด้วยเหตุนี้ ควรละทิ้งความคิดแบบสงครามเย็น และทฤษฎีเกมผลรวมเป็นศูนย์ (zero-sum game) ดำเนินความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงเพื่อรับมือกับตัวเลขแดงสันติภาพ จึงจะเป็นการตัดสินใจเลือกที่ถูกต้องของสหรัฐฯ
（Yim/Zhou/Zhou）
