บทวิเคราะห์: การเล่นเกมอัตราแลกเปลี่ยนสร้างความเสียหายแก่ทั่วโลก

2019-08-10 15:54:23 | CRI
Share with:

图片默认标题_fororder_20190810hlp1

การที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีจีนเป็น “ประเทศควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน” ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้นั้น ได้ละเมิดหลักพหุภาคีและทำลายความรับรู้ร่วมกันของทั่วโลก  การกระทำที่ไม่มีความรับผิดชอบและมีเจตนาร้ายเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายแก่ทั่วโลกเท่านั้น หากยังจะทำให้สหรัฐฯ ต้องแบกรับผลร้ายที่อาจตามมาโดยไม่คาดคิด 

ช่วงที่ผ่านมา ลัทธิเอกภาคีนิยมและลัทธิปกป้องทางการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น เศรษฐกิจโลกเสี่ยงต่อการซบเซาลงมากขึ้น ในฐานะสองประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นศูนย์กลางห่วงโซ่คุณค่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของจีนและสหรัฐฯ รวมแล้วคิดเป็น 40% ของจีดีพีทั่วโลก  ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวพันธ์กันอย่างใกล้ชิดกับอนาคตการเติบโตของเศรษฐกิจโลก การที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วเป็นต้นมานั้น ไม่เพียงแต่ทำลายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ หากยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อการลงทุนและการบริโภคทั่วโลกด้วย  

เมื่อเร็ว ๆ นี้  สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีจีนเป็น “ประเทศควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน” ทั้ง ๆ ที่จีนไม่ได้เข้าเงื่อนไขมาตรฐานการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนที่สหรัฐฯ กำหนดไว้เมื่อปี 2016 การกระทำนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศ และทำให้ตลาดการเงินโลกเกิดความวุ่นวายมากขึ้น อีกทั้งยังขัดขวางการฟื้นตัวทางการค้าและเศรษฐกิจโลกอีกด้วย

ช่วงทศวรรษ 1980 ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นอย่างมากทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นซบเซาลง ในขณะที่ช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว ค่าเงินเปโซของอาร์เจนตินาอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลอาร์เจนตินาถูกทำลายอย่างรุนแรง บทเรียนเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า หากอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศใดประเทศหนึ่งผันผวนอย่างมากก็จะส่งผลกระทบอย่างคาดไม่ถึงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของประเทศนั้น 

ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐฯ ของธุรกิจต่าง ๆ ที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมภาคการเกษตร (non-farm payrolls) เดือนกรกฎาคม ลดลงเมื่อเทียบกับเมื่อเดือนมิถุนายน ขณะที่ดัชนีภาคการบริการ (Non-Manufacturing Index) ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ 53.7 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 55.5 ขณะที่ดัชนีในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาอยู่ที่ 55.1 นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งเห็นว่า  สหรัฐฯ อาจเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้นหลังเล่นเกมเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน 

หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal ของสหรัฐฯ รายงานว่า การใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือมีแต่จะทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อสหรัฐฯ เนื่องจากสงครามการค้ายกระดับสูงขึ้น และทำให้ตลาดการเงินโลกเกิดความวุ่นวาย นอกจากนี้ ยังจะทำให้ผลสำเร็จจากการปฏิรูปภาษี และการผ่อนปรนการควบคุมเงินทุนของสหรัฐฯ สูญเปล่า ตลอดจนทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เสี่ยงต่ออันตรายจากการถดถอยลงมากขึ้น

นายลอเรนซ์ ซัมเมอร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ  กล่าวว่า  การที่สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีจีนเป็น “ประเทศควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน” นั้น ไม่มีความยุติธรรม และจะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐฯ 

นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์นับวันยิ่งแสดงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า การขึ้นลงในระดับหนึ่งของค่าเงินหยวนที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นผลจากตลาด หลังจากสหรัฐฯ ขู่จะขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีน  และไม่ได้เกิดจากการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนของจีน 

การที่สหรัฐฯ ใส่ร้ายจีนควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนนั้น มีวัตถุประสงที่จะหาข้ออ้างเพื่อขึ้นภาษีสินค้าจากนำเข้าจีนอีกครั้ง และกดดันเศรษฐกิจจีนมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ยังจะกดดันให้ธนาคารกลางของสหรัฐฯ ใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนปรน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ  รวมไปถึงเพื่อเป็นประโยชน์ทางการเมืองภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม การเล่นเกมเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนนั้น ยากที่จะทำให้สหรัฐฯ สมหวังได้ มิหนำซ้ำ ยังจะเป็นการทำให้สหรัฐฯ เองต้องแบกรับผลร้ายที่อาจตามมาอย่างคาดไม่ถึง นอกจากนี้ ยังจะทำให้บริษัทสหรัฐฯ สูญเสียโอกาสการทำกำไร และในที่สุด ก็จะทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในสหรัฐฯ  

(tim/cai)     

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

蔡建新