วันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา นายไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ที่สโมสรเศรษฐกิจเมืองดีทรอยต์ ระบุว่า สหรัฐฯ เคารพประชาชนจีนเป็นอย่างยิ่ง และไม่ต้องการให้ตลาดจีนได้รับผลกระทบ
คำพูดของนายไมก์ เพนซ์ ทั้งเสแสร้งและไร้สาระ หมายทำให้ปัญหาเศรษฐกิจและการค้าเป็นปัญหาทางการเมืองอย่างเปิดเผย มุ่งที่จะแทรกแซงกิจการภายในของจีน บังคับกดดันจีน และขัดขวางการพัฒนาของจีน
เมื่อทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา หลังจากจีน-สหรัฐฯ จัดการเจรจาทางเศรษฐกิจและการค้าจะพบว่า ทุกครั้งที่เกิดอุปสรรคระหว่างจีน-สหรัฐฯ ล้วนเป็นเพราะว่า สหรัฐฯ ไม่ปฏิบัติตามความเข้าใจร่วมกันระหว่างสองฝ่าย กลับคำ ขาดความจริงใจ และไม่ซื่อสัตย์ ด้านหนึ่ง สหรัฐฯ ขึ้นภาษีศุลกากรซึ่งทำลายผลประโยชน์ของประเทศอื่น และไม่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ เองด้วย ส่วนอีกด้านหนึ่ง สหรัฐฯ หลอกลวงว่า เคารพประชาชนจีน และไม่ต้องการให้ตลาดจีนได้รับผลกระทบ ซึ่งช่างเป็นเรื่องเสแสร้ง
ผู้คนทั้งหลายเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่า ในช่วงกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาหลังจากสหรัฐฯ ก่อข้อพิพาททางเศรษฐกิจและการค้ากับจีน เศรษฐกิจจีนพัฒนาอย่างสมเหตุสมผล มีทั้งความยืดหยุ่นและชีวิตชีวา ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมีแต่ความเสี่ยงที่นับวันจะยิ่งซบเซาลง ซึ่งนำไปสู่การที่สหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันต่อจีน
ทว่า ข้อเท็จจริงพิสูจน์ให้เห็นว่า การกดดันจีนนั้นจะไม่ได้ผล และกลับทำให้ปัญหาต่าง ๆ ยากที่จะแก้ไขได้ จีนยืนหยัดหลักการอย่างเสมอต้นเสมอปลายว่า ปัญหาเศรษฐกิจและการค้า คือ ปัญหาเศรษฐกิจและการค้า ไม่ควรนำปัญหาอื่นมาพัวพัน จีนยินดีปรึกษาหารือกับสหรัฐฯ บนพื้นฐานความเสมอภาคเท่าเทียมและเคารพซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม จีนจะไม่ยอมอ่อนข้อต่อปัญหาหลักการที่สำคัญเป็นอันขาด
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ประกาศว่า จะปรับขึ้นภาษีศุลกากร 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจีนจะใช้มาตรการตอบโต้ที่จำเป็น ปฏิบัติการของจีนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่
ทั้งนี้ ความมุ่งหมายใด ๆ ที่จะทำให้ปัญหาเศรษฐกิจ-การค้าให้เป็นเรื่องการเมืองย่อมจะไม่ช่วยแก้ปัญหาข้อขัดแย้ง
(Tim/Zhou)