ท่านผู้ฟังครับ การประชุมสุดยอด“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศครั้งแรกจัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมปี 2017   ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวคำปราศรัยใน หัวข้อ “ทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม และเส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ 21 ” ในพิธีเปิดการประชุมครั้งนั้น 

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวว่า

เราจะต้องสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ให้เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่ออารยธรรมที่มีความหลากหลาย  ในระหว่างการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”   ต้องให้การแลกเปลี่ยนอารยธรรมแทนที่ความบาดหมางกันทางอารยธรรม   การศึกษาเรียนรู้อารยธรรมซึ่งกันและกันต้องแทนที่การปะทะทางอารยธรรม   การอยู่ร่วมกันของอารยธรรมต้องแทนที่ความรู้สึกที่อารยธรรมของตนมีความเหนือกว่า   ต้องผลักดันให้ประเทศต่างๆ มีความเข้าใจกัน เคารพซึ่งกันและกัน และไว้เนื้อเชื่อใจกัน

เราต้องร่วมกันสร้างกลไกความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชนที่มีหลายระดับชั้น  สร้างโอกาสและช่องทางความร่วมมือให้มากขึ้น  ต้องผลักดันความร่วมมือด้านการศึกษา   ขยายการแลกเปลี่ยนนักศึกษา  ยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนให้สูงขึ้น  ต้องให้คลังสมองแสดงบทบาทมากขึ้นในการกระชับความร่วมมือ  สร้างสหพันธ์ และเครือข่ายคลังสมอง    นอกจากนี้  ยังต้องสร้างนวัตกรรมในรูปแบบความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การกีฬา    สาธารณสุข    ขับเคลื่อนโครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม  ต้องใช้ประโยชน์มรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมให้ดี  ร่วมกันผลิตผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ของเส้นทางสายไหม และร่วมกันอนุรักษ์มรดกเหล่านี้ให้ดี    เรายังต้องส่งเสริมการไปมาหาสู่กันระหว่างรัฐสภา   พรรคการเมือง  และองค์การภาคเอกชน  กระชับการแลกเปลี่ยนระหว่างสตรี  เยาวชน คนพิการ  ส่งเสริมการพัฒนาแบบครอบคลุมทุกกลุ่มคน   เราจะต้องเสริมสร้างความร่วมมือด้านการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น  เพื่อพัฒนา “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ที่สะอาด

ปัจจุบัน จีนได้ยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นใหม่แห่งการพัฒนา  เราจะปฏิบัติตามแนวทางการพัฒนาที่มีลักษณะการสร้างนวัตกรรม การประสานกัน เป็นแบบสีเขียว เปิดสู่ภายนอก และมีประโยชน์ร่วมกัน    ปรับตัวให้เข้ากับสภาวะใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจ  และนำพาการพัฒนาเศรษฐกิจไปสู่แนวทางที่ถูกต้อง   นอกจากนี้  จะพยายามขับเคลื่อนการปฏิรูปโครงสร้างฝั่งอุปทาน   เพื่อบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน และอัดฉีดพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งให้แก่การพัฒนา “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”    สร้างโอกาสใหม่ให้แก่การพัฒนาของโลก  

จีนยินดีที่จะพัฒนามิตรสัมพันธ์และความร่วมมือกับทุกประเทศที่มีส่วนร่วมในการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” บนพื้นฐานหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ  จีนยินดีแบ่งปันประสบการณ์ในการพัฒนาประเทศกับทุกประเทศทั่วโลก   แต่จะไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ไม่ส่งออกระบอบสังคมและรูปแบบการพัฒนาของตน และยิ่งไม่ยัดเยียดข้อคิดเห็นของตนให้แก่ใคร     จีนขับเคลื่อนการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”นั้น ไม่ได้ซ้ำรอยการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์เดิม    สิ่งที่เราอยากเห็นคือ รูปแบบใหม่แห่งความร่วมมือที่มีชัยชนะร่วมกัน เราไม่มีเจตนาที่จะก่อตั้งกลุ่มประเทศที่อาจสร้างความเสียหายให้แก่เสถียรภาพ   สิ่งที่เราอยากเห็นคือ  ครอบครัวใหญ่ที่มีความกลมกลืนกัน และอยู่ร่วมกันได้  

ปัจจุบัน  จีนและประเทศจำนวนมากได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”  ที่เป็นรูปธรรม   ข้อตกลงเหล่านี้ไม่เพียงแต่ครอบคลุมโครงการเชื่อมต่อทางฮาร์ดแวร์ เช่น การคมนาคมขนส่ง  โครงสร้างขั้นพื้นฐาน และพลังงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโครงการเชื่อมต่อทางซอฟต์แวร์ด้วย เช่น โทรคมนาคม ด่านศุลกากร  การตรวจเพื่อกักกันโรค   ข้อตกลงเหล่านี้ยังรวมไปถึงแผนและโครงการความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า อุตสาหกรรม   พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์   เศรษฐกิจทางทะเล และเศรษฐกิจสีเขียว    หน่วยงานรถไฟของจีนและประเทศที่เกี่ยวข้องยังได้ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับบริการขนส่งสินค้าทางรถไฟเป็นประจำระหว่างจีน-ยุโรป   จีนจะผลักดันให้เริ่มดำเนินโครงการความร่วมมือเหล่านี้ และให้เห็นผลโดยเร็ว     

จีนจะให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่การสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” โดยจะเพิ่มเงินสนับสนุน 100,000 ล้านหยวนแก่กองทุนเส้นทางสายไหม  สนับสนุนองค์การการเงินที่ประกอบธุรกิจกองทุนเงินหยวนที่ต่างประเทศ  คาดว่ายอดมูลค่าของธุรกิจกองทุนเงินหยวนจะอยู่ที่ประมาณ 300,000 ล้านหยวน   ธนาคารการพัฒนาแห่งชาติจีน และธนาคารการนำเข้าส่งออกของจีนจะปล่อยเงินกู้โดยเฉพาะมูลค่า 250,000  ล้านหยวน และ 130,000 ล้านหยวนตามลำดับ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐาน พลังการผลิต และความร่วมมือด้านการเงินภายใต้ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”    จีนยังจะร่วมมือกับธนาคารเพื่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย    ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ของกลุ่มประเทศบริกส์   ธนาคารโลก และองค์กรเพื่อการพัฒนาพหุภาคีอื่นๆ  เพื่อสนับสนุนโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”  จีนยังจะร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่างหลักการชี้นำการระดมเงินทุนสำหรับโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”

จีนและประเทศที่มีส่วนร่วมในการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”จะพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ การค้าที่อำนวยประโยชน์แก่กัน และได้ชัยชนะร่วมกัน  ส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการลงทุนกับประเทศเหล่านี้  สร้างเครือข่ายการค้าเสรี “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”   ความพยายามเหล่านี้จะเป็นแรงหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและระดับโลก   ซึ่งจีนได้เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติตั้งแต่ปี 2018 

จีนยินดีกระชับความร่วมมือในการสร้างนวัตกรรมกับทุกประเทศ   จะเริ่มดำเนินแผนปฏิบัติการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” โดยจะดำเนินการแลกเปลี่ยนทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี   วัฒนธรรม และการไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชน  จะสร้างศูนย์วิจัยร่วม  ดำเนินความร่วมมือด้านอุทยานวิทยาศาสตร์   และจะมีการถ่ายโอนเทคโนโลยี    ช่วงเวลา 5  ปีข้างหน้า  จีนจะเชิญนักวิทยาศาสตร์เยาวชนต่างชาติ 2,500 คนมาทำการวิจัยระยะสั้นที่จีน   จะช่วยฝึกอบรมบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและผู้บริหารต่างชาติจำนวน 5,000 คน    จะก่อตั้งศูนย์วิจัยร่วม 50 แห่ง  จีนยังจะจัดตั้งศูนย์บิ๊กดาต้า เพื่ออนุรักษ์ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม    จีนริเริ่มให้ก่อตั้งสหพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาสีเขียว “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”  รวมทั้งจะช่วยเหลือประเทศที่เกี่ยวข้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ 

ช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า จีนจะเสนอเงินช่วยเหลือมูลค่า 60,000 ล้านหยวนให้แก่ประเทศกำลังพัฒนาและองค์กรระหว่างประเทศที่มีส่วนร่วมในการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”  เพื่อให้นำไปใช้ในการดำเนินโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน   จีนยังจะเสนอความช่วยเหลือเร่งด่วนด้านธัญญาหารมูลค่า 2,000 ล้านหยวนให้แก่ประเทศกำลังพัฒนารายทาง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”   จะมอบเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่กองทุนช่วยเหลือเพื่อความร่วมมือระหว่างใต้กับใต้   นอกจากนี้  จีนยังจะดำเนินโครงการ “บ้านพักที่มีความสุข” 100  โครงการ โครงการลดความยากจน 100 โครงการ และโครงการรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสุขภาพ 100 โครงการในประเทศรายทาง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”    อีกทั้งจะเสนอเงินมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศรายทาง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”

จีนจะจัดตั้งกลไกประสานงานหลังปิดประชุมสุดยอด “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยจะตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาด้านการเงินและเศรษฐกิจ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”  ศูนย์กลางส่งเสริมการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” และศูนย์กลางความร่วมมือด้านการพัฒนาการเงินแบบพหุภาคี โดยจะร่วมมือกับธนาคารการพัฒนาพหุภาคี และศูนย์กลางพัฒนาความสามารถระหว่างจีนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ   จีนยังจะสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างองค์การภาคเอกชนรายทาง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”    และสร้างช่องทางใหม่แห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับประชาชน  เช่น  สหพันธ์สื่อมวลชน   และสหพันธ์การศึกษาด้านดนตรี  

ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ฝังรากอยู่ในเส้นทางสายไหมโบราณ  เน้นเชื่อมต่อภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา  แต่ในขณะเดียวกัน ก็เปิดสู่ทุกประเทศทั่วโลกด้วย  ไม่ว่าประเทศเอเชีย ยุโรป  แอฟริกา หรืออเมริกาก็ตาม ล้วนเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือในการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ได้   การสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”นั้นต้องให้ประเทศต่างๆ ร่วมปรึกษาหารือกัน    และต้องให้ทุกประเทศได้ประโยชน์ร่วมกัน 

จีนมีสุภาษิตว่า  “หากไม่ก้าวออกไปทีละก้าว ก็จะไม่สามารถถึงจุดหมายปลายทางที่มีระยะทางนับพันลี้”  ประเทศอาหรับมีสุภาษิตว่า   “พีระมิด

สร้างขึ้นมาด้วยก้อนหินที่ละก้อน” ยุโรปมีสุภาษิตว่า  “กรุงโรมไม่สามารถสร้างเสร็จภายในวันเดียว”     การสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”เป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่   ต้องการใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ  ขอให้เราช่วยกันผลักดันภารกิจนี้อย่างไม่หยุดยั้ง  เพื่อมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง    สร้างประโยชน์แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกและประชาชนของเรา