เมืองชิงเต่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญของจีน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของจีนและติดกับทะเลหวงไห่ เป็นเมืองทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีชายหาดอันคดเคี้ยวทั้งหมด 870 กิโลเมตร ภูมิประเทศทางทะเลทำให้เมืองชิงเต่ามีดินฟ้าอากาศสดชื่นและสบายน่าอยู่เป็นพิเศษครับ มรสุมทางทะเลแถบอบอุ่นส่งผลกระทบให้ 4 ฤดูกาลในแต่ละปีของชิงเต่าต่างกับพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศจีน กล่าวง่ายๆคือ ในฤดูใบไม้ผลิอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นช้ากว่าภาคกลาง 1 เดือน ถึงฤดูร้อนจะมีฝนตกหนัก และอากาศไม่ร้อนจัด พอเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงท้องฟ้าปลอดโปร่งอากาศสดชื่น  ช่วงกลางฤดูหนาวจะมีลมแรง และจะหนาวนาน

เมืองชิงเต่าเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีวัฒนธรรมที่รุ่งโรจน์ เป็นแหล่งกำเนิดของศาสนาเต๋า ซึ่งเป็นศาสนาพื้นเมืองของจีน เมื่อ 6000 ปีก่อนหน้านี้ ก็มีบรรพชนจีนตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นี่ ในสมัยชุนชิวจั้นกั๋ว อำเภอจี้มั่ว ซึ่งเป็นอำเภอใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของมณฑลซานตงก็คือที่ตั้งของเมืองชิงเต่าในปัจจุบัน ภายหลังจักรพรรดิจินซีฮ่องเต้รวมจีนเป็นเอกภาพแล้ว ทรงเคยเสด็จไปปีนเขาหลังหยาไถในเมืองชิงเต่าถึง 3 ครั้งเพื่อสังเกตการณ์สภาพทางทะเล และสั่งให้สูฝู(XU FU) เสนาบดีและนักผจญภัยนำกองเรือใหญ่มีลูกเรือ 3,000 คนไปสำรวจหายาอายุวัฒนะกลางทะเลตงไห่ ในยุคสมัยต่อๆมา ในฐานะที่ชิงเต่าเป็นเมืองท่าใหญ่ทางภาคตะวันออกของจีน เมืองนี้จึงมีบทบาทสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การขนส่งเรื่อยมา จนกระทั่งปลายราชวงศ์ชิง เมืองนี้ได้สร้างความเจริญทางการค้าที่มีความสำคัญในระดับสูงของจีน

ในประวัติศาสตร์ยุคใกล้ ทหารโจรต่างชาติเคยบุกรุกรานเมืองชิงเต่าเป็นเวลานาน ช่วงสงครามฝิ่นครั้งที่ 2 เยอรมนีใช้กำลังทัพบุกเข้ายึดครองชิงเต่าอย่างบ้าระห่ำ หลังสงครามโลกครั้งแรก ทหารญี่ปุ่นที่ไปประจำชิงเต่า ปกครองเมืองนี้เป็นเมืองขึ้นแทนเยอรมนี และใช้เมืองนี้เป็นท่าเรือใหญ่ส่งออกทรัพยากรธรรมชาติของจีนไปยังญี่ปุ่น ทำให้ชาวท้องถิ่นมีชีวิตที่ลำบาก ทุกวันนี้ยังหลงเหลือสิ่งปลูกสร้างแบบเยอรมนีและญี่ปุ่นให้พบเห็นอยู่ในเมืองชิงเต่า เป็นร่องลอยเก่าแก่ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเมืองชิงเต่าในสมัยโบราณ พรรคคอมมิวนิสต์จีนนำกองทัพแดงปลดแอกเมืองชิงเต่าจากการควบคุมของญี่ปุ่นและพรรคก๊กมิ่นตั๋งเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนปี 1949 แล้วกำหนดให้เมืองชิงเต่าเป็นหนึ่งในเมืองพิเศษ ตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 รัฐบาลกลางส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของชิงเต่า และมีนโยบายเอื้ออำนวยประโยชน์เป็นพิเศษ เมืองชิงเต่าจึงกลายเป็น 1 ใน 15 เมืองที่มีระดับการบริหารรองไปจากมณฑลของจีน

ภายหลังช่วง 20 ปีแห่งการดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศ โครงสร้างทางเศรษฐกิจของเมืองชิงเต่าได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์และสมเหตุสมผลยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ชิงเต่ามีอุตสาหกรรมหลัก ประกอบด้วย 6 ประเภท ได้แก่ โทรคมนาคม เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางพาราและผลิตภัณฑ์ทางเคมี อาหาร รถยนต์และเรือ และเสื้อผ้า จากสถิติขั้นต้น  GDP ในปี 2005 ของชิงเต่าสูงถึง 2 แสน 6 หมื่น 9 พัน 5 ร้อย 5 สิบล้านหยวน เพิ่มขึ้น 16.9 % เมื่อเทียบกับของปี 2004 ตลาดที่เปิดกว้าง เที่ยงธรรมโปร่งใส ความสงบสุขทางสังคม ปัจจัยครองชีพที่สะดวกสบาย รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพสูงในการทำงาน โครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์ของเมืองนี้ร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมการลงทุนและการดำรงชีวิตชั้นดี ชิงเต่าจัดว่าเป็น 1 ใน 10 ”เมืองเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองที่สุดของจีน”

ชิงเต่ามีวิสาหกิจชื่อดังที่ทำรายให้กับประเทศจีนอย่างมหาศาล ยกตัวอย่างที่ผู้ฟังของเราคุ้นเคยดีที่สุดคือบริษัทเบียร์ชิงเต่า หลายท่านคงเคยลิ้มรสชาติของเบียร์จากเมืองชิงเต่าแล้วใช่ไหมคะ เบียร์ชิงเต่ามีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ผลิตเบียร์หลากหลายชนิด ส่งออกไปยังกว่า 50 ประเทศและภูมิภาคอีกบริษัทหนึ่งที่ทุกท่านคุ้นเคยเป็นอย่างดีก็คือบริษัท Haier ซึ่งเป็นยี่ห้อดังของจีนเอง บริษัทนี้ก็ตั้งอยู่ที่เขตบุกเบิกเศรษฐกิจและเทคโนโลยีในเมืองชิงเต่า นับเป็นบริษัทผลิตเครื่องไฟฟ้าของจีนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ยอดการจำหน่ายในปี 2005 สูงถึง 1 แสน 3 พัน 9 ร้อยล้านหยวน