ไชน่ามีเดียกรุ๊ปรายงานว่า วันที่ 6 ตุลาคม กลุ่มก่อความไม่สงบที่ปิดบังใบหน้าได้ปิดกั้นเส้นทางการคมนาคมหลายสาย และทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ สถานีรถไฟ รวมทั้งธนาคารและร้านค้าที่ตกเป็นเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังได้วางเพลิง ปาระเบิดเพลิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และโจมตีชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ ทางการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีนประณามพฤติกรรมใช้ความรุนแรงดังกล่าวอย่างถึงที่สุด
วันเดียวกัน โฆษกทางการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงยังกล่าวอีกว่า หลายวันมานี้ พฤติกรรมใช้ความรุนแรงของกลุ่มก่อความไม่สงบทำให้สังคมฮ่องกงตกอยู่ในภาวะที่น่ากลัวและวุ่นวาย ส่งผลกระทบต่อการให้บริการสาธารณะหลายอย่าง เช่น ศูนย์การค้าและร้านค้าจำนวนมากต้องระงับการให้บริการเนื่องจากกลัวว่าจะถูกทำลาย ชาวบ้านจำนวนมากไม่กล้าเดินทางออกจากบ้าน เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย
อนึ่ง ช่วงหลายวันมานี้ ผู้ก่อความไม่สงบในฮ่องกงได้โจมตีชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ ทำให้ชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังทำให้ผู้สื่อข่าวถูกปาระเบิดเพลิงเข้าใส่ นอกจากนี้ ผู้ก่อความไม่สงบยังได้ทำลายอุปกรณ์ของระบบรถไฟฮ่องกงในวงกว้าง ทำให้มีช่วงเวลาหนึ่งทางการรถไฟฮ่องกงต้องปิดการให้บริการทั้งระบบ
พฤติกรรมใช้ความรุนแรงของกลุ่มปิดบังใบหน้าได้ทำลายความสงบสุขของสังคมอย่างร้ายแรง และเป็นภัยอันตรายต่อสังคมในวงกว้าง ทั้งนี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอ้างอิงกฎหมายเข้ารักษาความสงบในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกข้อบังคับห้ามปิดบังใบหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา มีสมาชิกนิติบัญญัติฝ่ายค้านยื่นเรื่องให้ศาลประกาศคำสั่งห้ามบังคับใช้ข้อบังคับดังกล่าว แต่ถูกศาลชั้นสูงฮ่องกงปฏิเสธอีกครั้งหนึ่ง
โฆษกทางการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงกล่าวว่า การประกาศใช้ข้อบังคับห้ามปิดบังใบหน้ามีวัตถุประสงค์ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุใช้ความรุนแรงและพฤติกรรมก่อความไม่สงบมากขึ้น และให้ฮ่องกงกลับคืนสู่ภาวะสงบสุขโดยเร็ว
(yim/cai)