ไชน่ามีเดียกรุ๊ปรายงานว่า วันที่ 25 พฤศจิกายน นายหวาง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนพบปะเจรจากับนายโทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ที่ กรุงโตเกียว
โดยนายหวาง อี้ กล่าวว่า ด้วยการชี้นำทางการเมืองของผู้นำทั้งสองประเทศ และการใช้ความพยายามร่วมกันของสองฝ่าย ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ญี่ปุ่นได้กลับสู่แนวทางที่ถูกต้อง และพัฒนาไปในทิศทางที่ดี ผู้นำทั้งสองประเทศได้บรรลุความเห็นที่เป็นเอกฉันท์ว่า จะร่วมกันสร้างความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นที่สอดคล้องกับความต้องการยุคใหม่ ทั้งสองฝ่ายจึงต้องหันหน้าเข้าหากัน กระชับการแลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความไว้เนื้อเชื่อใจกัน และลงลึกความร่วมมือ จัดการกับประเด็นปัญหาที่มีความละเอียดอ่อนให้เหมาะสม เช่นปัญหาทางประวัติศาสตร์ และปัญหาไต้หวัน จีนหวังและเชื่อมั่นว่า ด้วยความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่าย วาระการเมืองและการทูตระหว่างสองประเทศในขั้นตอนต่อไปจะกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ให้มีความเข้มแข็ง มั่นคงและยั่งยืน
นายหวาง อี้ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ผันผวน ลัทธิเอกภาคี นโยบายกีดกันทางการค้า จีนและญี่ปุ่นในฐานะเขตเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองและสามของโลก ต้องร่วมมือกันในการปกป้องระบอบพหุภาคี กลไกการค้าพหุภาคี และระบบโลกที่มีสหประชาชาติเป็นแกนกลาง ต่อต้านพฤติกรรมใดๆ ที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
นายหวาง อี้ยังกล่าวด้วยว่า ปีนี้ครบรอบ 20 ปีความร่วมมือระหว่างจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ จีนยินดีใช้ความพยายามร่วมกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ จัดการประชุมผู้นำระหว่างสามประเทศให้ประสบความสำเร็จ ยกระดับความร่วมมือให้สูงขึ้น นอกจากนี้ จีน-ญี่ปุ่นยังต้องส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและประสานกันในประเด็นปัญหาระดับโลกและระดับภูมิภาคให้มากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีเท่านั้น หากยังจะเป็นประโยชน์ต่อสันติภาพและเสถียรภาพของโลกอีกด้วย
ด้านนายโทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ญี่ปุ่นที่มั่นคงนั้น เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ต่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค และยังมีความหมายเชิงบวกที่สำคัญยิ่งในการรับมือกับสถานการณ์โลกที่วุ่นวายในขณะนี้ ญี่ปุ่นกำลังรอคอยการเดินทางมาเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ญี่ปุ่นยินดีที่จะกระชับการแลกเปลี่ยนกับจีน และจะทุ่มเทกำลังในการเตรียมความพร้อมเพื่อการเยือนญี่ปุ่นของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่จะมาถึง เพราะถือเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ญี่ปุ่นยุคใหม่
(Bo/cai)