วันที่ 20 ธันวาคม เป็นวันครบรอบ 20 ปีแห่งการกลับคืนสู่มาตุภูมิของเขตบริหารพิเศษมาเก๊า ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา เป็น 20 ปีที่ประชาชนมาเก๊ามีความรู้สึกถึงการได้รับมากขึ้นเรื่อยๆ หลักนโยบายการปกครองแบบ “หนึ่งประเทศสองระบบ” “ปกครองมาเก๊าด้วยชาวมาเก๊า” และ “ปกครองด้วยตนเอง” ทำให้มาเก๊าที่มีพื้นที่ไม่ถึง 33 ตารางกิโลเมตร ประชากรไม่ถึง 640,000 คน “ยืนขึ้น เจริญขึ้น และแข็งแรงขึ้น” ในระหว่างการแข่งขันระหว่างประเทศ โดยกลายเป็นศูนย์การพักผ่อนและท่องเที่ยว ที่มีจีดีพีเฉลี่ยเป็นอันดับ 2 ของโลก ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” คือสิ่งถูกต้อง ทำได้จริง และถูกใจประชาชน
ก่อนการกลับคืนสู่มาตุภูมิ เศรษฐกิจมาเก๊าถดถอยติดต่อกันเป็นเวลา 4 ปี เมื่อปี 1999 จีดีพีของมาเก๊ามีจำนวน 51,872 ล้านปาตากามาเก๊า รายได้ของรัฐบาลมาเก๊ามีแค่ 320 ล้านปาตากามาเก๊า หลังจากการกลับคืนสู่มาตุภูมิ การพัฒนาร่วมกับแผ่นดินใหญ่ของจีนนั้น ทำให้เศรษฐกิจมาเก๊าดีขึ้น โดยในปี 1998 จีดีพีมาเก๊าสูงถึง 444,700 ล้านปาตากามาเก๊า เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่า รายได้ของรัฐบาลท้องถิ่นเป็น 53,870 ล้านปาตากามาเก๊า เป็น 168 เท่าตัวของช่วงเริ่มต้น
ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคซาร์สในปี 2003 เศรษฐกิจมาเก๊าได้รับการโจมตีเป็นอย่างมาก รัฐบาลกลางของจีนได้ใช้นโยบายการท่องเที่ยวเปิดเสรีส่วนบุคคล เพื่อผ่อนคลายแรงกดดันด้านเศรษฐกิจ ตามการพัฒนาของจีนแผ่นดินใหญ่ เศรษฐกิจมาเก๊าพัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นพิเศษ ค่อยๆ กลายเป็นเขตร่ำรวยในโลก โดยจีดีพีเฉลี่ยต่อคนเพิ่มขึ้นจาก 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมมาเป็น 83,000 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 มากกว่าสหรัฐฯ และญี่ปุ่นอย่างมาก
Bo/Ldan/Dan