ปี 2019 เป็นปีที่ 6 ของข้อริเริ่ม “1 แถบ 1 เส้นทาง” พลิกดูปฏิทินทางการทูตของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนในรอบ 1 ปีนี้ “1 แถบ 1 เส้นทาง” ยังคงเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญมาโดยตลอด
การเยือนต่างประเทศครั้งแรกของนายสี จิ้นผิงในปี 2019 จีนกับอิตาลีได้ร่วมลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับการร่วมเดินหน้าโครงการ “1 แถบ 1 เส้นทาง” นายสี จิ้นผิงระบุว่า
“เส้นทางสายไหมโบราณเกิดจากบรรพบุรุษที่ใฝ่หาชีวิตที่ดีงาม มีส่วนส่งเสริมการเชื่อมสัมพันธ์และการติดต่อกันระหว่างประเทศต่างๆ ในยูเรเชีย เป็นการเปิดยุคแห่งการแลกเปลี่ยนครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์อารยธรรมมนุษยชาติ วันนี้เรายินดีที่จะร่วมกับประชาชนอิตาลีที่เป็นมิตรอีกครั้ง เป็นแบบอย่างแก่กัน ร่วมมือกันและได้ประโยชน์แก่กัน เพื่อให้เส้นทางสายไหมโบราณเปี่ยมชีวาใหม่ ให้ประชาชนทุกประเทศเข้าถึงผลการพัฒนากันถ้วนหน้ามากขึ้น”
เดือนเมษายน ในที่ประชุมสุดยอดความร่วมมือระหว่างประเทศ “1 แถบ 1 เส้นทาง” ครั้งที่ 2 ณ กรุงปักกิ่ง นายสี จิ้นผิง ได้แจงทิศทางการดำเนินงาน “1 แถบ 1 เส้นทาง” อย่างชัดเจน ต่อแขกผู้มีเกียรติต่างชาติจำนวนกว่า 6,000 คน จาก 150 ประเทศ และ 92 องค์การระหว่างประเทศว่า
“เมื่อเผชิญหน้ากับอนาคต เราควรมุ่งประเด็นหลักที่ว่า ‘ไถลึกแล้วปลูกถี่’ ร่วมกันเขียนภาพที่ ‘วาดรายละเอียด’ ร่วมกันเดินหน้า ‘1 แถบ 1 เส้นทาง’ ให้พัฒนาก้าวหน้าอย่างมีคุณภาพต่อไป”
เดือนพฤศจิกายน นายสี จิ้นผิง เดินทางไปเยือนต่างประเทศครั้งหลังสุด กรีซกับจีนได้บรรลุฉันทามติเกี่ยวกับการเดินหน้าความร่วมมือ “1 แถบ 1 เส้นทาง” นายสี จิ้นผิงแถลงกับผู้สื่อข่าวหลังเจรจากับนายกรัฐมนตรีกรีซว่า
“เราเห็นพ้องกันว่า จีนกับกรีซเป็นหุ้นส่วนโดยธรรมชาติในการร่วมสร้าง ‘1 แถบ 1 เส้นทาง’ ควรดำเนินโครงการความร่วมมือในแวดวงสำคัญๆ ให้เกิดผล แสดงบทบาทการเป็นชุมทางการขนส่งทางเรือของท่าเรือพิเรอุสให้ดี สร้างเส้นทางขนส่งสายด่วนทางบกและทางเรือระหว่างจีนกับยุโรปให้เร็วขึ้น”
จาก “การวางกรอบ” สู่ “การวาดรายละเอียด” รอบ 1 ปีมานี้ จีนโชว์ความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันแบ่งปันโอกาสการพัฒนากับโลกอีกครั้ง
(YIM/LING/CAI)