ช่วงนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายทหารสหรัฐฯออกมาชวนเชื่อสิ่งที่เรียกว่า “ภัยคุกคามจากการทหารจีน” บ่อยครั้ง ต่อการนี้ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พันเอกพิเศษอู๋ เชียน โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนออกมาแถลงโต้กลับที่กรุงปักกิ่งว่า ปีหลังๆ นี้ สหรัฐฯได้ก่อสงครามในหลายพื้นที่ของโลก รุกรานอธิปไตยของประเทศอื่น ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมหาศาลต้องได้รับบาดเจ็บล้มตาย อีกทั้งยังมีผู้ลี้ภัยจำนวนมากต้องพลัดที่นาคาที่อยู่ ซึ่งจีนมีสุภาษิตว่า “โจรร้องเรียกให้จับโจร” ดังนั้น คำกล่าวหาจีนของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯทุกคำ ล้วนสามารถนำไปวิจารณ์ใช้กับประเทศสหรัฐฯเองน่าจะเหมาะสมที่สุด
ในกรณีนาย john Rood รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯกล่าวหาจีนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า จีนใช้งบประมาณทางทหารจำนวนมหาศาลนั้น โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนกล่าวว่า งบประมาณทางทหารของสหรัฐฯในปีงบประมาณ 2019 มีจำนวนสูงถึง 716,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายการมอบอำนาจด้านการป้องกันประเทศสหรัฐฯในปีงบประมาณ 2020 ได้เพิ่มงบประมาณทางทหารให้มีจำนวนมากถึง 738,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของงบประมาณทางทหารทั่วโลก เป็นเช่นนี้แล้ว ยังจะมีหน้ามากล่าวหาประเทศอื่นว่า ใช้งบประมาณทางทหารจำนวนมหาศาลอีกหรือ?
ในกรณีสหรัฐฯกล่าวหาจีนโจมตีไซเบอร์นั้น โฆษกจีนกล่าวว่า สหรัฐฯมีความด่างพร้อยมากมายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนเน้นว่า หากจีนและสหรัฐฯร่วมมือกัน ก็จะเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย แต่หากต่อสู้กัน ก็จะเจ็บทั้งคู่ จีนหวังว่าสหรัฐฯจะมองสถานการณ์โดยรวม แก้ไขนโยบายที่ไม่ถูกต้อง หันหน้าเข้าหากันกับจีน พยายามทำให้จีน-สหรัฐฯไม่ปะทะกัน ไม่เป็นปรปักษ์กัน อีกทั้งยังต้องเคารพซึ่งกันกัน และร่วมมือกันเพื่อชัยชนะร่วมกัน
(yim/cai)