ถึงเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พื้นที่ต่างๆทั่วประเทศจีน (รวมฮ่องกง มาเก๊าและไต้หวัน) พบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 34,546 ราย เสียชีวิต 722 ราย ผู้สงสัยติดเชื้อ 27,657ราย นอกจากประเทศจีน ทั่วโลกมีกว่า 20 ประเทศพบผู้ติดเชื้อ เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีนเป็นต้นกำเนิดและเป็นเขตที่มีผู้ป่วยมากที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จีนได้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ปิดเมืองอู่ฮั่น แลกกับความปลอดภัยของทั่วโลก”
ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคมเป็นต้นมา รัฐบาลจีนได้สั่งปิดเมืองอู่ฮั่น มาตรการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ แสดงให้เห็นว่าจีนเป็นประเทศใหญ่ที่รับผิดชอบ และเมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังคงขยายวงออกไป ปัจจุบัน เขตชุมชน หมู่บ้านและสถานที่ทำงานส่วนใหญ่ของจีนต่างดำเนินการควบคุมการเข้าออกอย่างเข้มงวด ผู้ที่เข้าออกต่างต้องตรวจวัดอุณหภูมิ คนและรถจากที่อื่นล้วนต้องรับการตรวจอย่างเข้มงวดเช่นกัน
จีนได้ใช้มาตราการป้องกันและควบคุมที่รอบด้านและเข้มงวดที่สุด สร้างเครือข่ายการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดที่ครอบคลุมทั้งเขตชุมชนในเมืองและชนบท แสดงถึงความได้เปรียบของระบอบสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีนที่ถือมนุษย์เป็นพื้นฐาน และรวบรวมกำลังเพื่อปฏิบัติงานใหญ่ได้อย่างดี
ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกระบุเมื่อเร็วๆ นี้ว่า จีนได้ใช้มาตรการคัดแยกที่เข้มงวด สามารถป้องกันการแพร่กระจายติดต่อระหว่างบุคคลได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ได้ปกป้องชาวจีนเท่านั้น หากยังได้ปกป้องชาวโลกทั้งหลายอีกด้วย เราควรชื่นชมรัฐบาลจีน อันที่จริง จีนได้เสนอมาตรฐานใหม่หลายด้านในการรับมือกับการระบาดโรค