การป้องกันและควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนกำลังคืบหน้าอย่างเห็นได้ชัด หลังประชาชนจีนใช้ความพยายามอย่างหนัก ประเทศส่วนใหญ่ในโลกจึงชื่นชมจีนที่ใช้ทรัพยากรและความเสียสละอย่างมหาศาลในการรับมือกับสถานการณ์ครั้งนี้ แต่นักการเมืองสหรัฐฯ หลายคนกลับพากันออกมาใส่ร้ายความพยายามของจีนในการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค โจมตีระบบการเมือง และกล่าวหาจีนว่า จำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายหลิน ซงเทียน เอกอัครราชทูตจีนประจำแอฟริกาใต้ ได้ตั้งคำถามต่อสหรัฐฯ ว่า สิ่งที่จีนทำในการป้องกันและควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ สหรัฐฯ จะทำได้หรือไม่ โดยนายหลิน ซงเทียน ตั้งข้อสังเกต 8 ประการดังนี้ 1. ผู้นำสูงสุดและพรรคคอมมิวนิสต์จีนนำพาประชาชนทั่วประเทศยับยั้งการระบาดของโรคอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิผล 2. จีนสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่นภายในระยะเวลาประมาณ 10 วัน อีกทั้งยังสร้างโรงพยาบาลชั่วคราวอีก 15 แห่งในมณฑลหูเป่ย 3. จีนรณรงค์ให้ประชาชนเฝ้าระวังอาการอยู่ที่บ้านด้วยความสมัครใจ 4.จีนระดมกำลังเจ้าหน้าที่การแพทย์และพยาบาล รวมถึงสิ่งของที่จำเป็นต่าง ๆ จากทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเมืองอู่ฮั่น และมณฑลหูเป่ย 5. จีนให้ทุกมณฑลและเมืองยื่นมือช่วยเหลือมณฑลหูเป่ย และเมืองอู่ฮั่น 6. จีนปฏิบัติตามกลไกร่วมป้องกันและควบคุมโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ 7. จีนทำให้ประชากร 800 ล้านคนพ้นจากความยากจนในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา และ 8. จีนยืนหยัดเดินบนหนทางแห่งสันติและการพัฒนา นายหลิน ซงเทียน เอกอัครราชทูตจีนประจำแอฟริกาใต้ ยังเน้นย้ำว่า 8 เรื่องดังกล่าวนี้ สหรัฐ ฯ ทำไม่ได้ และไม่มีวันจะทำได้
ในปี 2009 เกิดการระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่ (H1N1) สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในสหรัฐฯ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ กลับออกมาแถลงว่า ไม่จำเป็นต้องประกาศการเตือนภัยใด ๆ หลังจากนั้นเป็นเวลา 6 เดือน จึงออกมาประกาศให้ประเทศเข้าสู่ภาวะฉุกเฉิน และผลร้ายที่ตามมา คือ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวได้ระบาดไปยัง 214 ประเทศและเขตแคว้น เป็นเหตุให้มีผู้ป่วยติดเชื้อรวมกว่า 60 ล้านคน และมีผู้ป่วยเสียชีวิตเกือบ 3 แสนคน ขณะนี้ สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ B ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า จนถึงขณะนี้ มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่อย่างน้อย 22 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิต 12,000 คน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สหรัฐฯ ทำเช่นเดียวกับจีนได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ จำต้องไปขอโทษประชาชนประเทศของตน
(tim/cai)