สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กำลังขยายความรุนแรงขึ้นในทั่วโลก ขณะนี้มี 195 ประเทศและภูมิภาคมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียได้ยกระดับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสมากขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อค่ำวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียได้ประกาศดำเนินมาตรการปิดประเทศแบบสมบูรณ์เป็นเวลา 21 วัน ตั้งแต่เวลา 00:00 น. ของวันที่ 25 มีนาคมเป็นต้นไป หากไม่มีเหตุจำเป็นห้ามประชาชนออกจากบ้าน ปิดโรงเรียน โรงงาน สำนักงาน ห้างร้านและสถานบันเทิงเป็นต้น ขณะเดียวกัน การขนส่งสาธารณะ เช่น รถประจำทาง รถไฟใต้ดิน สายการบิน เป็นต้น ก็หยุดให้บริการแก่มวลชนทั่วไปชั่วคราวด้วย เพียงให้บริการแก่บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่รับผิดชอบกิจการฉุกเฉินเท่านั้น

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น  นายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านก็ได้ประกาศในที่ประชุมหารือแนวทางต้านไวรัสโควิด-19 ว่า จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตในหลายจังหวัดอิหร่านต่างลดน้อยลง แสดงให้เห็นว่ามาตรการควบคุมได้ผลในระดับหนึ่ง และเพื่อที่จะปิดกั้นหนทางการแพร่ระบาดของไวรัสมากขึ้น นายฮัสซัน โรฮานีเน้นว่า ประชาชนต้องลดการเดินทาง ไม่ออกจากบ้าน จนถึงสิ้นสุดวันหยุดปีใหม่ของอิหร่าน

ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ประกาศว่า เนื่องจากช่วงนี้จำนวนผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพื่อป้องกันความปลอดภัยโดยรวมของนักเรียนประถมและอนุบาล ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมเป็นต้นไป หากครอบครัวใดมีสมาชิกกลับจากต่างประเทศ ให้เด็กในครอบครัวนั้นพักการเรียนหยุดอยู่ในบ้านก่อนเป็นเวลา 14 วัน

และเมื่อเร็วๆ นี้ นายอู เอนค์ตูว์ชิน รองนายกรัฐมนตรีมองโกเลีย ประธานคณะกรรมาธิการกิจการฉุกเฉินมองโกเลียประกาศว่า เพื่อที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส  ทางคณะกรรมาธิการจะขยายเวลาหยุดการดำเนินงานของสายการบินระหว่างประเทศ รถไฟ และการคมนาคมทางบกของผู้โดยสารที่จะเดินทางมายังมองโกเลีย ออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน โดยจะไม่จำกัดการขนส่งสิงค้านำเข้า-ส่งออก

(Yim/Zi)