ตามข้อมูลสถิติแบบเรียลไทม์ที่เผยแพร่โดยมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ของสหรัฐ จนถึงเวลา 7:00 น. ของวันที่ 26 มีนาคม ตามเวลากรุงปักกิ่ง สหรัฐมีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 65,285 ราย เสียชีวิต 926 ราย และมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นวันละ 10,000 ราย ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วันแล้ว โฆษกองค์การอนามัยโลกคาดการณ์เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ว่า “สหรัฐฯ อาจกลายเป็น"ศูนย์กลางของการระบาดโควิด-19 ของโลก”
ด้านหนึ่งคือสถานการณ์รุนแรง อีกด้านหนึ่งคือผู้นำสหรัฐมุ่งแต่จะหา “แพะรับบาป” เพื่อหลบเลี่ยงความรับผิดชอบ กล่าวได้ว่าเป็น"ผู้สร้างความปั่นป่วนเพิ่ม" ในสถานการณ์เช่นนี้
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม นายไมค์ พอมเพโอ ใช้คำว่า "ไวรัสอู่ฮั่น" กับภายสาธารณะ หลังจากนั้น นักการเมืองสหรัฐบางคนก็กล่าวหาจีนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเมื่อสองสามวันก่อนผู้นำสหรัฐจะบอกว่าไม่ใช้คำว่า "ไวรัสจีน" แล้ว แต่การกระทำของ นายพอมเพโอและนักการเมืองอเมริกันบางคน ไม่ยอมทิ้งอคติต่อจีน และยังพยายามใช้ทุกๆ โอกาสกล่าวหาจีน พยายามหันเห เบี่ยงประเด็นการประณามและวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนที่เห็นว่ามาตรการการของรัฐไม่ได้ผล
ไวรัสโควิด-19 เป็นศัตรูร่วมกันของมนุษยชาติ ความสามัคคีและความร่วมมือคือความต้องการเร่งด่วนจากประชาคมโลก ตามแผนการที่ได้กำหนดไว้ การประชุมสุดยอดกลุ่มผู้นำ G20 สมัยวิสามัญ ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ในวันที่ 26 มีนาคม เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประชาคมโลกหวังว่า กลุ่มประเทศ G20 จะแสดงบทบาทแป็นแกนนำอีกครั้ง ระดมให้ทุกฝ่ายร่วมกันต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสและรักษาความมั่นคงของเศรษฐกิจโลก จีนได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนและยินดีที่จะร่วมกับสมาชิกของกลุ่ม G20 เพื่อให้การประชุมสุดยอดครั้งนี้สามารถบรรลุผลที่เป็นรูปธรรม
จีนหวังว่านักการเมืองสหรัฐบางคน สามารถรับฟังเสียงที่เป็นเหตุเป็นผลทั้งในและต่างประเทศ และหยุดกล่าวหาจีน เพราะว่าการกระทำเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์อันเร่งด่วนภายในประเทศ หากยังเป็นอุปสรรคร้ายแรงในการดำเนินความร่วมมือป้องกันและควบคุมไวรัสระหว่างประเทศ
Bo/lei/Zi