เมื่อเร็ว ๆ นี้ วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐอเมริกา วิพากษ์วิจารณ์รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ นายไมค์ ปอมเปโอ ว่า “ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ไม่มีรัฐมนตรีต่างประเทศคนไหนที่แย่เท่ารัฐมนตรีต่างประเทศคนนี้ พฤติกรรมของ รมต.ตปท ในช่วงการแพร่ระบาด ทำให้เขากลายเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐที่ได้ชื่อว่าแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์” เมื่อทบทวนพฤติกรรมที่ผ่านมาของรตม.ตปทคนนี้ภายหลังเกิดโรคระบาด ก็เชื่อได้ว่าสิ่งที่วอชิงตันโพสต์พูดไม่ผิดจากความเป็นจริง
ภายใต้การจัดการของปอมเปโอคือ “โกหก หลอกลวง และขโมย” ทำให้การทูตสหรัฐนับวันจะยิ่งห่างไกลจากแนวทางที่ถูกต้อง ความสัมพันธ์กับมหาอำนาจที่สำคัญเช่นจีนและรัสเซียตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ความแตกแยกกับพันธมิตรตะวันตกมีความรุนแรงมากขึ้นจนเกือบจะเป็นประเทศที่โดดเดี่ยว นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ปอมเปโอต้องการเอาใจผู้นำสหรัฐฯ ก็สร้างแรงกดดันต่อจีนอย่างต่อเนื่อง สร้างฐานเพื่อให้เส้นทางทางการเมืองมุ่งสู่การเป็น ประธานาธิบดี”
หลังเกิดการระบาดโควิด-19 ปอมเปโอโจมตีจีนในเชิงรุกอย่างหนัก เรียก "ไวรัสหวู่ฮั่น" หลายครั้ง ใส่ร้ายพรรคการเมืองของจีนและระบบการเมืองของจีนว่าเป็น "ภัยคุกคามแห่งยุค" พยายามเอา "ไวรัสหวู่ฮั่น" ใส่ในคำชี้แจงของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ G7 สิ่งที่ปอมเปโอทำนั้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การแพร่ระบาดไม่ใช่เหตุการณ์ที่โหดร้ายและเจ็บปวดในสายตาของเขา แต่กลายเป็นเครื่องมือสำหรับผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเขาเอง เขาใช้ไวรัสเป็นเครื่องโจมตีจีน ไม่เพียงแต่ทำให้ประชาคมโลกตกใจ ยังสร้างให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากชนชั้นสูงของสหรัฐฯ
ปัจจุบัน จำนวนสะสมของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั่วโลกเกิน 1.13 ล้านรายแล้ว สหรัฐกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของโรคระบาด มีผู้ติดเชื้อกว่า 330,000 ราย อย่างไรก็ตาม ปอมเปโอไม่ได้หยุด ยังคงสร้างเรื่องโกหกทำลายชื่อเสียงของจีนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองส่วนตัว เห็นชีวิตชาวอเมริกันเป็นเรื่องน้อยนิด และยังแสดงตัวเป็นอุปสรรคต่อความร่วมมือระดับโลกเพื่อต่อต้านการแพร่ระบาด ซึ่งอาจจะจริงที่คำวิจารณ์ว่าเขาเป็น“หนึ่งในรมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ ที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์”
Bo/Patt/Zdan