วันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ในงานแถลงข่าว นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน โต้แย้งคำกล่าวหาของนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสของการเผยแพร่ข้อมูลการระบาดในจีน

นายจ้าว ลี่เจียน กล่าวว่า จีนเป็นประเทศแรกที่รายงานการระบาดของโควิด-19 แก่ WHO แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ต้นกำเนิดของไวรัสมาจากเมืองอู่ฮั่น  ข้อสรุปที่ว่า “จีนปกปิดข้อมูลการระบาดและไม่โปร่งใส”  จึงไม่มีมูลความจริง  คำกล่าวหาดังกล่าวถือเป็นการทำลายชื่อเสียงของประเทศและจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนทั่วไป

วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา นายไมค์ ปอมเปโอ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า พวกเรากำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่จากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน สหรัฐฯ พยายามไปตรวจสอบที่จีน แต่ก็ไม่สำเร็จ การปกปิดข้อมูล กลับผิดเป็นถูก ลงโทษผู้ที่บอกความจริง ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ในทุกประเทศในช่วงวิกฤต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาความโปร่งใสของข้อมูล รวมไปถึงคุณค่าของประชาธิปไตยและเสรีภาพแบบสหรัฐฯ

นายจ้าว ลี่เจียน โต้แย้งคำพูดดังกล่าวของนายไมค์ ปอมเปโอว่า โรคระบาดสามารถเกิดขึ้นที่ภูมิภาค ประเทศ หรือ เมืองใดในโลกก็ได้ ต้นกำเนิดของโรคอยู่ที่ใดเป็นคำถามทางวิทยาศาสตร์ จึงควรให้นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ไปศึกษาวิจัย วันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมาจีนเปิดเมืองอู่ฮั่นเป็นวันแรก หลังปิดนาน 76 วัน เพิ่มความเชื่อมั่นแก่ทุกประเทศในการเอาชนะไวรัส ผู้คนมากขึ้นเห็นได้ว่า แนวทางของจีนมีประสิทธิภาพ ประสบการณ์ของจีนควรค่าแก่การศึกษาเรียนรู้ ประเทศที่รับผิดชอบจะร่วมกันต่อต้านการ “ตีตรา” ไวรัสอย่างเด็ดขาด

นายจ้าว ลี่เจียน ยังกล่าวด้วยว่า จีนใช้ไทม์ไลน์ระบุรายละเอียดการติดต่อระหว่างจีน-สหรัฐฯ หลังเกิดการระบาด โดยจีนรายงานสถานการณ์การระบาดแก่องค์การอนามัยโลกอย่างทันเวลา แบ่งปันรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แก่โลกอย่างทันเวลา สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและควบคุมการระบาดโดยเร็วที่สุด ตลอดจนได้รับการประเมินเชิงบวกจากชุมชนระหว่างประเทศ ซึ่งสหรัฐฯ ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลการระบาดจากจีนได้โดยไม่มีการปิดบัง

Tim/Patt/Zdan