ช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกกำลังวิกฤต การที่นักการเมืองสหรัฐฯ มุ่งซ้ำเติมและสร้างมลทินแก่ประเทศอื่นกำลังทำลายบารมีและชื่อเสียงของสหรัฐฯ เอง
ลองมาทบทวนการกระทำต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ในความร่วมมือยับยั้งโควิด-19 ระหว่างประเทศในช่วงหลัง ๆ นี้ ที่เริ่มตั้งแต่การสกัดหน้ากากอนามัยที่กำลังขนส่งไปเยอรมนีจากประเทศที่ 3 ด้วยวิธีการแบบโจร มุ่งสั่งการให้บริษัท 3M หยุดส่งออกส่งออกหน้ากากอนามัยไปยังแคนาดาและประเทศลาตินอเมริกา ปัดความรับผิดชอบด้านการรับมือโควิด-19 มุ่งกล่าวโทษจีน แถลงข่าวเน้นลัทธิเชื้อชาตินิยมหลายครั้ง ตลอดจนคว่ำบาตรอิหร่านและคิวบาขั้นรุนแรง และกดดันจนทำให้ประเทศดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงเวชภัณฑ์ที่ต้องการเร่งด่วน
ทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า การต่างประเทศของสหรัฐฯ มีมาตรฐานทางจริยธรรมตกต่ำลงอย่างมาก หลายคนระบุว่า สาเหตุหลักมาจากนาย ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ หนังสือพิมพ์ The Washington Post เผยแพร่บทความ ระบุว่า นายไมค์ ปอมเปโอ ติดอันดับรัฐมนตรีต่างประเทศยอดแย่ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เนื่องจากล้มเหลวในการรับมือโควิด-19 ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เมื่อทบทวนผลงานทางการเมืองของเขาก็จะพบว่า การฉวยโอกาสทางการเมืองตามลัทธิอัตถประโยชน์เป็นวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับนาย ไมค์ ปอมเปโอ เพื่อให้เข้าตาผู้นำสหรัฐฯ และโดดเด่นในวงการการเมืองในประเทศ
นายไมค์ ปอมเปโอ เป็นเสมือนกับ “นักเชิดหุ่น” หรือ ผู้อยู่เบื้องหลังผู้นำสหรัฐ ส่งคณะทูตสหรัฐฯ วิ่งจนตรอกไปตามระบบเอกภาคี ผลที่ตามมาก็คือ การทำลายบารมีและชื่อเสียงทางการทูตสหรัฐฯ และตัวผู้นำสหรัฐฯ เอง
(TIM/LING/CAI)