อาสาสมัครที่ร่วมการทดสอบวัคซีนสำหรับโควิด-19

2020-04-21 17:00:04 | ไชน่ามีเดียกรุ๊ป
Share with:

图片默认标题_fororder_20200421新冠疫苗志愿者a

ตั้งแต่เกิดการระบาดโรคโควิด-19 เป็นต้นมา แวดวงต่างๆทั้งสังคมจีนก็ฟันฝ่าต่อสู้กับไวรัสดังกล่าวมาอย่างไม่ลดละ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ทีมวิจัยสถาบันแพทยศาสตร์ทางทหารแห่งชาติจีน ซึ่งนำโดยพลตรีหญิงเฉินเวย ได้เปิดโครงการทดสอบวัคซีนสำหรับโควิด-19 ทางคลินิคงวดแรก โดยรับอาสาสมัครร่วมการฉีดวัคซีนจำนวน 108 คน ซึ่งล้วนเป็นพลเมืองอู่ฮั่น

ช่วงนี้ อาสาสมัครที่ร่วมการทดสอบวัคซีนดังกล่าวกลุ่มแรกทยอยกันเปิดตัวต่อสื่อมวลชนและสังคมออนไลน์ ชาวเน็ตก็พากันให้คำอวยพรและชื่นชมอย่างกว้างขวาง

นายเฉิน เมิ่งเฉียว ผู้ผลิตภาพยนตร์วัย 34 ปี อาศัยอยู่ในเมืองอู่ฮั่นเป็นประจำ หลังจากสมัครร่วมการทดลองวัคซีนครั้งนี้เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ต่อจากนั้นไม่ถึง 2 วัน เขาก็ได้รับแจ้งว่าให้ไปตรวจร่างกาย     หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เฉิน เมิ่งเฉียวเกิดอาการเป็นไข้ถึง 37.8 องศาในวันที่ 21 มีนาคม แต่นี่เป็นการตอบสนองที่เป็นปกติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า วัคซีนได้แสดงบทบาทในระบบภูมิคุ้มกันแล้ว จากนั้นไม่นาน อุณหภูมิร่างกายก็ฟื้นฟูภาวะปกติ     เฉิน เมิ่งเฉียวบอกเล่าว่า หลังจากฉีดวัคซีน ทุกคนจะได้รับเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายติดไว้ใต้รักแร้ เพื่อติดตามอุณหภูมิร่างกายตลอด 24 ชั่วโมง

ต่อคำชื่นชมจากชาวเน็ต เฉิน เมิ่งเฉียวบอกว่า เขาเป็นคนทั่วไปคนหนึ่ง ขณะเผชิญกับสถานการณ์โรคปัจจุบัน เขาหวังจะอุทิศกำลังของตนเท่าที่จะทำได้ เมื่อเทียบกับคุณูปการของบุคลากรทางการแพทย์และนักวิจัยต่างๆ ทั้งนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ปัจจุบัน เขากำลังวางแผนจะทำภาพยนตร์เกี่ยวกับการต่อต้านโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น

图片默认标题_fororder_20200421新冠疫苗志愿者b

นายจู เอ้าปิง อายุ 27 ปี เป็นทหารปลดประจำการเมื่อปี 2015 และเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมหูเป่ยเมื่อปีที่แล้ว วันที่ 17 มีนาคมปีนี้ เขาเห็นประกาศรับอาสาสมัครร่วมโครงการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ก็สมัครชื่อทันที

เขาบอกเล่าว่า ขั้นตอนการตรวจร่างกายมีความเข้มงวดมาก นอกจากบันทึกดัชนีร่างกายทุกประการแล้ว ยังต้องถามประวัติการติดโรคและผ่าตัดในอดีตอย่างละเอียด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทีมวิจัยดังกล่าวมีความรับผิดชอบอย่างมาก

จู เอ้าปิงทะนุถนอมประสบการณ์ที่ร่วมการทดสอบวัคซีนครั้งนี้ มีชาวเน็ตชื่นชมอาสาสมัครอย่างจู เอ้าปิงเป็น “วีรชน” แต่เขาบอกว่า ตัวเองเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น ต้องขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียสละและฟันฝ่าต่อสู้เพื่อช่วยชีวิตประชาชนในยามเกิดวิกฤติในเมืองอู่ฮั่น บุคคลเหล่านี้เป็นวีรชนที่แท้จริง

ตามกำหนดการ อาสาสมัครที่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวต้องถูกกักบริเวณและเฝ้าติดตามสภาพการณ์ในสถานที่กำหนดไว้เป็นเวลา 14 วัน ในช่วงที่ถูกกักบริเวณ จู เอ้าปิงได้ถ่ายวีดีทัศน์หลายเรื่องเพื่อนำเสนออาหารหูเป่ย โดยเรียกความสนใจจากแฟนเน็ตเป็นจำนวนมาก เขาบอกว่า เนื่องจากถูกกระทบจากสถานการณ์โรค ผลิตผลการเกษตรในมณฑลหูเป่ยพบปัญหาขายไม่ออกจำนวนมาก เขาหวังจะอุทิศกำลังของตนเพื่อช่วยจำหน่ายผลิตผลการเกษตรของหูเป่ยได้บ้าง

วันที่ 3 เมษายน จู เอ้าปิงสิ้นสุดการถูกกักบริเวณและกลับถึงบ้าน เขาถ่ายวีดีทัศน์เรื่องสั้นเพื่อโชว์สภาพสุขภาพของตนและชีวิตประจำวันของชาวอู่ฮั่นออนไลน์ โดยหวังจะให้แฟนเน็ตมองเห็นได้ว่า เมืองอู่ฮั่นกำลังฟื้นตัวและมีความดีงามยิ่งขึ้นทุกวัน

ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมเป็นต้นมา อาสาสมัครต่างๆที่ได้รับการฉีดวัคซีนสำหรับโควิด-19 ทยอยกันเสร็จสิ้นช่วงกักกั้น และกลับถึงบ้าน วันที่ 3 เมษายน นายเริ่น เชา อาสาสมัครอีกคนได้รับการอนุมัติให้กลับบ้าน ผลการตรวจสอบทาง CT ปรากฏว่า ปอดสองข้างของเขามีสภาพเป็นปกติ สุขภาพแข็งแรงดี

图片默认标题_fororder_20200421新冠疫苗志愿者c

เริ่น เชาบอกเล่าว่า ช่วงที่ถูกกักบริเวณ แต่ละคนมีห้องเดี่ยว 1 ห้อง ชีวิตประจำวันไม่มีการจำกัดอื่น ยกเว้นห้ามออกนอกห้อง ทุกวันมีเจ้าหน้าที่ส่งอาหารถึงที่หน้าประตูห้องวันละ 3 มื้อ อาหารมีความพอเพียงและแต่ละวันไม่ซ้ำกัน อาสาสมัครทุกคนต้องมีเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายติดใต้รักแร้ตลอด 24 ชั่วโมง และต้องบันทึกข้อมูลทางสุขภาพที่เกี่ยวข้องเป็นประจำทุกวัน

เริ่น เชาได้รับการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ถึงวันเสร็จสิ้นการกักบริเวณ อุณหภูมิร่างกายของเขาเป็นปกติตลอด และไม่ได้ปรากฏอาการที่ไม่สบายแต่อย่างใด เขาบอกว่า การเปลี่ยนแปลงในช่วงกักบริเวณมีเพียงเรื่องเดียวคือ กินเยอะจนอ้วนขึ้น

เริ่น เชายังบอกว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสเป็นอาสาสมัครร่วมการทดสอบวัคซีนดังกล่าว เขาโชว์สภาพชีวิตประจำวันของตนในช่วงกักบริเวณบนวีแชท แต่คาดไม่ถึงว่าได้รับความใส่ใจและการให้กำลังใจจากชาวเน็ตมากมาย

หลังจากได้ทราบว่า เริ่น เชาเป็นแฟนมาราธอน สมาคมนักวิ่งมาราธอนแห่งหนึ่งยังส่งรองเท้าวิ่ง เสื้อกีฬา และการ์ดอวยพรให้กับเขา เพื่อชื่นชมและให้กำลังใจ ทำให้เริ่น เชารู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

นางสาวจิ้น กวนผิงทำงานในบริษัทผลิตยา เมื่อได้ข่าวว่า โครงการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ขอรับอาสาสมัคร เธอก็สมัครชื่อทันที และเป็นอาสาสมัครหญิงคนแรกที่ร่วมโครงการดังกล่าว

วันที่ 31 มีนาคม เธอเสร็จสิ้นช่วงกักบริเวณและกลับถึงบ้าน โดยมีสุขภาพแข็งแรง เธอบอกว่า ในช่วงกักบริเวณ ยกเว้นมีผิวบางส่วนแดงและคันนิดหนึ่ง ก็ไม่ได้ปรากฏอาการไม่สบายอื่นๆ ที่ผิดปกติ

เธอบอกว่า การกลับบ้านไม่ได้หมายความว่า การทดสอบดังกล่าวสิ้นสุดลงแล้ว ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า เธอยังต้องเจาะเลือดเพื่อติดตามผลแอนติบอดีเป็นประจำ และยังต้องบันทึกข้อมูลต่างๆ รวมถึงการกินยา การรักษาโรค และการฉีดวัคซีนอื่นๆ เป็นต้น

ก่อนที่เป็นอาสาสมัครร่วมการทดสอบวัคซีนโควิด-19 จิ้น กวนผิงยังได้ทำงานอาสาสมัครอีกหลายด้าน รวมถึงการรับส่งบุคลากรทางการแพทย์ การจัดส่งและกระจายสิ่งของช่วยเหลือ เป็นต้น หลังจากเสร็จสิ้นช่วงกักบริเวณแล้ว เธอก็กลับไปทำงานอาสาสมัครบริการต่างๆ เหมือนเดิม เธอบอกว่า เมื่อเทียบกับสองเดือนก่อน งานปัจจุบันเบาลงเรื่อยๆ รู้สึกดีใจมากที่ได้มองเห็นว่า เมืองอู่ฮั่นกำลังฟื้นฟูภาวะปกติอยู่

ปัจจุบัน โครงการทดสอบวัคซีนสำหรับโควิด-19 ของจีนกำลังเป็นไปอย่างราบรื่น นายหวัง จุนจื้อ ผู้เชี่ยวชาญสถาบันวิศวกรรมจีนแสดงความมั่นใจว่า การวิจัยวัคซีนสำหรับโควิด-19 ของจีนอยู่ระดับแนวหน้าของโลก กระบวนการวิจัยจะไม่ช้ากว่าประเทศอื่นๆ

Yim/Sun

  • เสียงข่าวประจำวัน (26-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (26-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (26-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (25-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (25-11-2567)

郑元萍