การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นวิกฤติสาธารณะครั้งใหญ่ที่ทั่วโลกเผชิญหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ขณะนี้ การแพร่ระบาดได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจจีน  ห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั่วโลกถูกขัดจังหวะ และบริษัทจีนจำนวนมากโดยเฉพาะเอสเอ็มอี ที่เน้นการส่งออกต้องสูญเสียออเดอร์สั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศ ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ อัตราการเติบโตของ GDP จีน ลดลง 6.8%

การสูญเสียทั้งหมดได้แลกอะไรกลับมา คำตอบคือ ชีวิตคน เพื่อช่วยชีวิตคนนับหมื่นชีวิต เศรษฐกิจของจีนถูกระงับชั่วคราวเป็นเวลาสองเดือน แม้ว่ามีการสูญเสียมหาศาล  แต่ก็คุ้มค่าจริงๆ

ปัจจุบัน ประชาชนจีน  1,400 ล้านคน ไม่มีปัญหากับการใช้ชีวิตประจำวันในขั้นพื้นฐาน มีอาหารที่เพียงพอ และสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานก็ให้บริการได้เป็นปกติ  ผลที่คาดไม่ถึงจากการแพร่ระบาดคือชาวจีนปรับตัวให้เข้ากับ "ชีวิตออนไลน์แบบคลาวด์" ยอดค้าปลีกออนไลน์ของจีนเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรก ยอดค้าปลีกออนไลน์เกิน 1.8 ล้านล้านหยวน หรือเกือบหนึ่งในสี่ของยอดค้าปลีกของสินค้าอุปโภคบริโภค

เศรษฐกิจดิจิทัลได้กลายเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน และการระบาดของโควิด-19 ได้กระตุ้นการลงทุนในเศรษฐกิจดิจิทัล "โครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์" จะกลายเป็นจุดสนใจของการลงทุนของจีนและระบบเอไอ การสื่อสาร 5G และอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่งต่างๆ (ไอโอที) จะเริ่มเข้าสู่ช่วงใช้งานได้จริง

กำลังการผลิตของบริษัทจีนไม่ได้รับความเสียหาย ในกรณีที่ไม่มีออเดอร์สั่งซื้อจากต่างประเทศ บริษัทต่างๆ หันกลับมาเน้นตลาดในประเทศ และขยายการบริโภคภายในประเทศ ประเทศขนาดใหญ่ที่มีประชากร 1,400 ล้านคน มีศักยภาพในการบริโภคสูง นอกจากนี้ธุรกิจเอสเอ็มอีที่เน้นการส่งออกของจีน ยังเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องแนวคิดที่มองการณ์ไกลและการประกอบการที่มีความยืดหยุ่น  ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในปัจจุบัน บริษัทหลายแห่งได้เปลี่ยนรูปแบบประกอบการ หันมาผลิตหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ป้องกันไวรัสทางการแพทย์ เป็นต้น  พวกเขามีการปรับตัวอย่างทันเวลา และได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมากจากลูกค้าต่างประเทศ

Yim/Lei/Zi