วันที่ 18 พฤษภาคมตามเวลาท้องถิ่น คณะกรรมการกำกับดูแล (supervisory committee) พิเศษของรัฐสภาสหรัฐ ที่รับผิดชอบเรื่องการกำกับดูแลงานรับมือโควิด-19 ของรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศผลสำรวจว่ากองทุนกระทรวงการคลังที่แจกเงินเยียวยาประชาชนจำนวน 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ตั้งขึ้นจากร่างกฎหมายว่าด้วยความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น มีการบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพทำให้สามารถส่งถึงมือประชาชนได้เพียง 37,500 ล้านหยวนเท่านั้น
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จัดตั้งองค์กรให้กู้เงิน 5 แห่ง เพื่อจัดสรรกองทุนการคลังจำนวน 454,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยวิสาหกิจของรัฐต่างๆ และมอบหมายรัฐบาลท้องถิ่นดำเนินการ ซึ่งรวมถึงองค์กรปล่อยเงินกู้แก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ผลสำรวจพบว่าจาก 5 องค์กรที่กล่าวมามีเพียงองค์กรให้เงินกู้แก่วิสาหกิจตลาดรอง (secondary market) เพียงแห่งเดียวที่ได้รับเงินจัดสรร 37,500 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อใช้ในการจัดซื้อพันธบัตรวิสาหกิจ ส่วนอีก 4 องค์กรไม่ได้รับเงินจัดสรร
นอกจากนี้ เงินกู้สำหรับธุรกิจการบินพลเรือนที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เคยระบุว่าจะปล่อยกู้นั้น ก็ไม่มีเงินเข้าบัญชีเงินกู้ก้อนนี้มีจำนวนมากถึง 46,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้มาจากกองทุนกระทรวงการคลังที่ใช้ช่วยเหลือประชาชน 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐเช่นกัน แต่คณะกรรมการกำกับดูแลพิเศษของรัฐสภาสหรัฐฯ ตรวจพบว่า เงินก้อนนี้ไม่ได้มีการแจกให้กับประชาชน
ในช่วง 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา วิสาหกิจสหรัฐฯ จำนวนมากพากันประกาศลดจำนวนลูกจ้าง ยื่นขอคุ้มครองการล้มละลายในขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่มีอำนาจตัดสินให้ปล่อยเงินกู้แก่วิสาหกิจ กลับไม่ยอมให้เงินช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เป็นเหตุให้ประชาชนชาวอเมริกันผิดหวังอย่างหนัก
รายงานผลสำรวจจากคณะกรรมการกำกับดูแลพิเศษของรัฐสภาสหรัฐฯ ตั้งคำถามจำนวนมากกับนาย Steven Mnuchin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนาย Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เช่น “สัดส่วนของเงินกู้เหล่านี้” “กระทรวงการคลังจะปล่อยเงินกู้เมื่อไหร่” เป็นต้น แต่จนถึงขณะนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังไม่มีคำตอบที่เป็นทางการแต่อย่างใด
BOLFZI