เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อ นางไช่ ยิงเหวิน ผู้นำทางการไต้หวัน ที่ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง และเรียกผู้นำทางการไต้หวันว่า “ประธานาธิบดี” พร้อมประกาศ “ความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างสหรัฐฯ-ไต้หวัน” นับเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความยินดีต่อการดำรงตำแหน่งของผู้นำทางการไต้หวัน ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา พฤติกรรมของนายไมค์ ปอมเปโอ ฝ่าฝืนหลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับ ว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-สหรัฐฯ อย่างรุนแรง เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างบ้าระห่ำและท้าทายประเทศจีนอย่างเปิดเผย
แม้ทราบดีแก่ใจว่า การกระทำเช่นนี้เป็นการท้าทายหลักการจีนเดียว อันเป็นความเห็นร่วมกันของประชาคมโลก แต่นักการเมืองกลุ่มนี้ ซึ่งนำโดยนายไมค์ ปอมเปโอ ยังคงใช้ปัญหาไต้หวันเป็นเครื่องมืออย่างไม่ลดละ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ โยนความขัดแย้งภายในประเทศสู่ภายนอก ใช้พฤติกรรมแสดงความแข็งแกร่งกับจีนเพื่อช่วยพรรคการเมืองของตนเองได้คะแนนเสียงเลือกตั้งมากขึ้น และสะสมกำลังเพื่อบรรลุความมักใหญ่ใฝ่สูงทางการเมือง
การกำหนดเป้าหมายทางการเมืองเช่นนี้ ในช่วงแรกที่สหรัฐฯ รับมือกับการระบาดของโควิด-19 นั้น นายไมค์ ปอมเปโอ ไม่เคยมองชีวิตประชาชนอเมริกันเป็นสิ่งสำคัญ แต่กลับพยายามกล่าวโจมตีประเทศอื่นเท่าที่ทำได้ ในฐานะเจ้าหน้าที่การทูตอันดับ 1 ของสหรัฐฯ เขาใช้โอกาสบนเวทีโลกแสดงโชว์ส่วนตัว เจตนาใช้ถ้อยคำไร้สติทำลายความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อสู้โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องการใส่ร้ายจีน พฤติกรรมอันแทบปราศจากสติของเขา แม้กระทั่งการหาหลักฐานไม่พบ คำพูดใหม่ขัดแย้งกับคำพูดเก่า และมีคำกล่าวที่ถูกนักวิทยาศาสตร์ปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า รวมไปถึงการเผชิญคำวิจารณ์อย่างรุนแรงจากสื่อมวลชนทั่วโลก ก็ไม่สามารถทำให้นายไมค์ ปอมเปโอ หยุดพูดเท็จและกล่าวข้อมูลที่ไม่ถูกต้องได้
TIM/LF/ZI