เช้าวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่กรุงปักกิ่ง การประชุมสภาผู้แทนประชาชนทั่วประเทศจีนประจำปีได้เริ่มต้นขึ้น นายสี จิ้นผิง และผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์และผู้นำประเทศคนอื่นๆ พร้อมด้วยผู้แทนจากทั่วประเทศจีนทั้งสิ้น 2,897 คนเข้าร่วมพิธีเปิดประชุม
นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้กล่าวรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา พร้อมยื่นข้อเสนอต่อกิจการงานในปีนี้ให้ที่ประชุมพิจารณา จีนในฐานะองค์เศรษฐกิจใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก จำต้องหาทางแก้ไขรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่กำหนดไว้ ผลักดันการปฏิรูปและเปิดประเทศ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากทั่วโลก
ในที่ประชุม รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลได้มีเนื้อหาเน้นว่า ปี 2020 นี้ จีนจะทำให้ประชากรพ้นจากภาวะยากจนได้ทั้งหมด เพิ่มกำลังช่วยเหลือในอำเภอและหมู่บ้านที่ยังไม่พ้นจากภาวะยากจนให้มากยิ่งขึ้น ปฏิบัติการลดความยากจนด้วยการอุปโภคบริโภค สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมลดความยากจน
อีกทั้งเพิ่มการช่วยเหลือผู้อพยพจากพื้นที่ยากจนต่อเนื่อง ผลักดันให้มาตรการลดความยากจนและพัฒนาชนบทประสานงานกันอย่างได้ผล ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ช่วยผู้ยากจนมีชีวิตที่ดีขึ้นจริง
“ชนเผ่าเหมาหนาน” เป็นชนเผ่าที่มีประชากรค่อนข้างน้อย 1 ใน 28 ของจีน แหล่งที่อยู่รวมกันหลักอยู่ในอำเภอหวนเจียง เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสี ซึ่งทั้งอำเภอเป็นชนเผ่าเหมาหนานทั้งหมดเพียงแห่งเดียวของจีน โดยมีประชากรทั้งสิ้น 6.45 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 70 ของประชากรชนเผ่าเหมาหนานทั่วประเทศจีน
“อำเภอหวนเจียง” เป็นอำเภอสำคัญในโครงการช่วยเหลือความยากจนระดับชาติ และก็เป็นอำเภอยากจนมาก 1 ใน 20 ของเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสี
ปลายปี 2019 อัตรายากจนของอำเภอหวนเจียงได้ลดน้อยลงเป็นร้อยละ 1.48 และเดือนพฤษภาคมปี 2020 อำเภอหวนเจียงก็ถูกถอดออกจากรายชื่อกลุ่มอำเภอยากจนแล้ว เมื่อพิจารณาสภาพรวมทั่วไปของชนเผ่าเหมาหนานทั่วประเทศจีน ชนเผ่าเหมาหนานของจีนได้หลุดพ้นจากความยากจนแล้ว
ทั้งนี้ การที่อำเภอหวนเจียงบรรลุเป้าหมายพ้นจากความยากจน เนื่องจากได้ใช้เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ในอำเภอเป็นแบบคาสต์(Karst) ซึ่งเดือนมิถุนายน ปี 2014 ภูมิประเทศคาสต์ของอำเภอหวนเจียงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการ
แต่ภูมิประเทศคาสต์ถือเป็นอุปสรรคกีดขวางการหลุดพ้นความยากจนของชาวบ้าน ทำให้พื้นที่มากมายต้องปลูกธัญญาหารในร่องหิน และเนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น ธรรมชาติและภูมิประเทศเป็นต้น อำเภอหวนเจียงจึงเป็นเขตยากจนที่สุดอำเภอหนึ่งในเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสีตลอดเวลา
ทางหลวงและบ้านเรือนในหมู่บ้านเซี่ยวหนาน อำเภอปกครองชนเองชนเผ่าเหมาหนานหวนเจียง เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสี (ภาพจากสำนักข่าวซินหวา)
สภาวิทยาศาสตร์จีนเป็นหน่วยงานหลักที่ให้ความช่วยเหลือด้านการเพาะปลูกแก่อำเภอหวนเจียง เดือนธันวาคมปี 2005 สภาวิทยาศาสตร์จีนได้จัดตั้งสถานีวิจัยสภาวะคาสต์แห่งแรกของจีนในอำเภอหวนเจียง ได้ให้การสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่สำคัญต่อการพ้นความยากจน และช่วยแก้ไขปัญหาการพัฒนาอย่างยั่งยืนในท้องถิ่น
นักวิจัยได้ใช้ความพยายามหารูปแบบใหม่เกี่ยวกับ “การแก้ปัญหาความยากจนด้วยนิเวศวิทยาสีเขียวและการประกอบอาชีพที่มีเอกลักษณ์พิเศษ” โดยวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ดัดแปลงพันธุ์พืช การจัดตั้งฐานสาธิตที่มีเป้าหมายแม่นยำตามมาตรฐาน ฝึกอบรมให้ความรู้การประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับท้องถิ่น เช่น การเลี้ยงปศุสัตว์ การแปรรูปยาสมุนไพรจีน การปลูกพืชผักผลไม้ เป็นต้น
สำหรับปัญหาอื่นๆ เช่น มีภัยพิบัติเกิดขึ้นบ่อยๆ การพัฒนาทางนิเวศวิทยาล้าหลัง รายได้ของเกษตรกรต่ำเป็นต้น ได้อาศัยเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยเหลือในการเลี้ยงปศุสัตว์ ปลูกพืชสมุนไพรจีน และปลูกพืชผลที่มีเอกลักษณ์พิเศษ เป็นต้น
นายเจิง ฟู่ผิง นักวิจัยสถาบันวิจัยนิเวศวิทยาด้านการเกษตรของเขตใกล้โซนร้อนแห่งสภาวิทยาศาสตร์จีนที่ได้ทำงานช่วยเหลือผู้ยากจนในอำเภอหวนเจียงเป็นเวลา 26 ปีเล่าว่า การให้เสื้อผ้าให้อาหารไม่สามารถช่วยเหลือผู้ยากจนได้จริง มีแต่ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง จึงจะแก้ไขปัญหาความยากจนได้ถึงราก
เกษตรกรชนเผ่าเหมาหนานกำลังดูแลสวนสมุนไพรที่ปลูก(ภาพจากสำนักข่าวซินหวา
ในหมู่บ้านซินโพ นายเว่ย เฉาตง ได้จัดตั้งสหกรณ์ผู้เลี้ยงไหม ที่ใช้เทคโลยีใหม่อย่างแข็งขัน ระดมกว่า 1,800 ครอบครัวเลี้ยงไหม ซึ่งในจำนวนนี้เป็นครอบครัวยากจน 270 ครอบครัว แสดงบทบาทสาธิตการพัฒนากิจการเลี้ยงไหมในอำเภอหวนเจียงให้เป็นกิจการช่วยบรรเทาความยากจน
จากความพยายามเป็นเวลายาวนาน ชาวบ้านชนเผ่าเหมาหนานมีรายได้เพิ่มขึ้นจากอาชีพเสริม โดยอำเภอหวนเจียงได้เลือกกิจการที่มีเอกลักษณ์พิเศษต่างๆ เช่น การเลี้ยงไหม การเลี้ยงหมู การปลูกใบชา พยายามพัฒนากิจการช่วยบรรเทาความยากจน ปลายปี 2019 ชาวบ้านชนเผ่าเหมาหนานที่ยากจนทั้งหมดได้เข้าร่วมการประกอบกิจการที่มีเอกลักษณ์พิเศษของอำเภอ
ระหว่างปี 2016-2019 อำเภอหวนเจียงมีประชากรพ้นจากความยากจนทั้งสิ้น 65,900 คน ในจำนวนนี้ เป็นชนเผ่าเหมาหนานที่พ้นจากความยากจนได้แล้ว 14,152 คน ยังเหลือผู้ยากจนอีก 579 คน อัตรายากจนของอำเภอหวนเจียงจากร้อยละ 19.56 เมื่อปลายปี 2015 ได้ลดลงเป็นร้อยละ 1.48 ในปลายปี 2019 และในเดือนพฤษภาคม ปี 2020 ชนเผ่าเหมาหนานในอำเภอได้พ้นจากความยากจนแล้วทั้งหมด