เมื่อเร็ว ๆ นี้ สหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายนโยบายสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ ปี 2020 จงใจใส่ร้ายสภาพความเป็นจริงเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในเขตซินเจียงของจีน โจมตีนโยบายการบริหารจัดการเขตซินเจียงของจีน ทำให้ประชาชนจีนรวมถึงชาวซินเจียงจำนวน 25 ล้านคนคัดค้านและไม่พอใจอย่างรุนแรง อีกทั้งยังถูกประณามจากกลุ่มคนที่ยืนหยัดความยุติธรรมในสังคมโลก

หลังจากการพัฒนาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะปีหลัง ๆ นี้ เขตซินเจียงทุ่มเทปราบปรามลัทธิก่อการร้ายและขจัดกลุ่มหัวรุนแรง เขตซินเจียงในทุกวันนี้เข้าสู่ยุคใหม่แห่งความเจริญรุ่งเรือง ตลอดระยะเวลา 3  ปีที่ผ่านมา เขตซินเจียงไม่เคยเกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงและการก่อการร้ายแม้แต่ครั้งเดียว ตั้งแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศ ครั้งที่ 18 เป็นต้นมา การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในเขตซินเจียงเฉลี่ยอยู่ที่ 8.5% ต่อปี อัตราความยากจนของประชากรลดลงจาก 19.4% ใน 2013 เหลือเพียง 1.24% ในปี 2019 สภาพสังคมที่เต็มไปด้วยความมั่นคงและเสถียรภาพในเขตซินเจียง ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวพัฒนาอย่างรวดเร็ว ข้อเท็จจริงมากมายแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เขตซินเจียงทุกวันนี้ กำลังอยู่ในยุคแห่งการพัฒนาและเจริญรุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์ สิทธิการมีชีวิต การพัฒนา ตลอดจนสิทธิขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ของประชาชนทุกชนเผ่าได้รับการประกันอย่างเต็มที่ ชาวซินเจียงอยู่เย็นเป็นสุขนับวันยิ่งมากขึ้น

ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ชาวต่างชาติจำนวนกว่า 1,000 คน จาก  91 ประเทศ ในคณะดูงานกว่า 70 คณะ ทยอยเดินทางไปยังเขตซินเจียง  พวกเขาต่างมีความเห็นว่า สภาพความเป็นจริงในเขตซินเจียงที่พวกเขาเห็นกับตาตรงข้ามกับคำกล่าวของสื่อมวลชนและนักการเมืองสหรัฐฯ อย่างสิ้นเชิง

ยุคสมัยใหม่ ประชาชนจีนทุกชนเผ่ามีความสามัคคีกันอย่างแน่นแฟ้น ดังคำกล่าวของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ว่า “สามัคคี สนิทแน่นแฟ้น เปรียบเสมือนเมล็ดทับทิม” ความตั้งใจของประชาชนจีนที่จะพิทักษ์ความเป็นเอกภาพของประเทศ ความสามัคคีระหว่างชนเผ่า และบรรลุซึ่งการพัฒนาของประเทศนั้น มิอาจมีพลังใดมาเปลี่ยนแปลงได้

(Tim/Zi)