บทวิเคราะห์ : จีน-อินเดียต้องร่วมกันรักษาสันติภาพในเขตชายแดน

2020-07-08 13:06:13 | CRI
Share with:

เมื่อค่ำวันที่ 5 กรกฎาคม   นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน รับหน้าที่เป็นผู้แทนพิเศษจีนในปัญหาพรมแดนจีน-อินเดีย ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนาย Ajit Doval ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอินเดีย และเป็นผู้แทนพิเศษอินเดียในปัญหาพรมแดนจีน-อินเดีย โดยทั้งสองฝ่ายได้บรรลุความเห็นพ้องกันที่จะผ่อนคลายสถานการณ์ในเขตชายแดน

ทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยที่จะปฏิบัติตามความเห็นพ้องกันของผู้นำทั้งสองประเทศ  เคารพและปฏิบัติตามสนธิสัญญาและข้อตกลงเกี่ยวกับปัญหาพรมแดนที่สองประเทศได้ลงนามกันแล้ว  เสริมการแลกเปลี่ยนผ่านกลไกการประชุมผู้แทนพิเศษ  ปรับปรุงและเสริมสร้างมาตรการไว้เนื้อเชื่อใจกันในเขตพื้นที่ชายแดน รวมทั้งจะให้กองกำลังในแนวหน้าของทั้งสองประเทศยุติการเผชิญหน้ากันโดยเร็ว

จีน-อินเดียได้บรรลุข้อตกลงดังกล่าวหลังมีการแลกเปลี่ยนและหารือกันหลายครั้ง  ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายที่จะแก้ไขข้อขัดแย้งผ่านการพูดคุยเจรจากัน การเจรจาระหว่างจีน-อินเดียครั้งนี้ทำให้สถานการณ์ในเขตชายแดนระหว่างสองประเทศผ่อนคลายลง อีกทั้งยังทำให้ทั้งสองฝ่ายมีกำลังใจมากขึ้นในการรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ ตลอดจนสันติภาพและเสถียรภาพของโลกด้วย

อนึ่ง นับตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้เป็นต้นมา   เหตุปะทะกันที่บริเวณหุบเขากัลวาน เขตชายแดนทางทิศตะวันตกระหว่างจีน-อินเดียได้รับความสนใจจากประชาคมโลกอย่างกว้างขวาง  ทางการจีนแถลงว่า  ข้อถูกผิดของเหตุปะทะครั้งนี้มีความชัดเจนมาก กล่าวคือ  กองกำลังป้องกันเขตชายแดนของอินเดียฝ่าฝืนข้อตกลงระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันเขตชายแดนจีน-อินเดียอย่างอุกอาจ  โดยได้ล้ำเส้นควบคุมจริงเข้ามายังฝั่งจีนอีกครั้งหลังสถานการณ์มีการผ่อนคลายลงแล้ว    มิหนำซ้ำ  พวกเขายังใช้ความรุนแรงโจมตีทหารจีนที่เข้าไปเจรจา  ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดการปะทะกันทางร่างกาย  จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต 

พฤติกรรมเสี่ยงต่ออันตรายของทหารอินเดียดังกล่าวได้ฝ่าฝืนข้อตกลงเกี่ยวกับเขตชายแดนของทั้งสองประเทศ และกฎบรรทัดฐานแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง  จีนจึงได้แสดงความคัดค้านและประท้วงอย่างจริงจังต่ออินเดีย  และได้ใช้มาตรการปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนของตนเองอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ 

การเจรจาระหว่างจีน-อินเดียครั้งนี้เน้นว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องเคารพและปฏิบัติตาม “ความเห็นพ้องกัน” ของทั้งสองฝ่ายเมื่อเดือนเมษายน ปี 2018  และเดือนตุลาคม ปี 2019 ซึ่งผู้นำจีน-อินเดียได้พบปะกันและเน้นว่า  ทั้งสองประเทศต้องยึดมั่นในแนวทางการพัฒนามิตรสัมพันธ์และความร่วมมือ   ต้องทุ่มเทกำลังในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในเขตชายแดน   ควบคุมข้อขัดแย้งด้วยความสุขุมรอบคอบและระมัดระวัง  ไม่ให้ข้อขัดแย้งถูกยกระดับขึ้นมาเป็นข้อพิพาท    ความเห็นพ้องต้องกันดังกล่าวได้ชี้แนวทางที่ถูกต้องในการแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างเหมาะสมให้แก่ทั้งจีนและอินเดีย    จึงต้องได้รับการเคารพและปฏิบัติตาม  เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนในขณะนี้ 

การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงจีน-อินเดียครั้งนี้ยังเน้นว่า  ทั้งสองประเทศต้องเสริมการพูดคุยเจรจากัน   ต้องจัดการประชุมตามกลไกปรึกษาหารือ และประสานกิจการเกี่ยวกับเขตชายแดนเป็นประจำ    ปรับปรุงและเสริมมาตรการไว้เนื้อเชื่อใจกันอย่างต่อเนื่อง  รวมทั้งได้แสดงความยินดีที่การพบปะเจรจาทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายการทูตของสองประเทศในช่วงหลายวันที่ผ่านมาได้ประสบความคืบหน้า   ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นว่า ทั้งสองฝ่ายตระหนักดีว่า การพูดคุยเจรจาเป็นทางเลือกที่ถูกเพียงหนึ่งเดียว ในการแก้ไขสถานการณ์ที่ตึงเครียดในเขตชายแดน 

ปัจจุบัน  การพัฒนาและการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองเป็นภารกิจสำคัญ อันดับแรกของทั้งจีนและอินเดีย  เมื่อพิจารณาในแง่ปกป้องประโยชน์ขั้นพื้นฐานของประชาชนทั้งสองประเทศ  อินเดียต้องพยายามให้ประชาชนของประเทศตนเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง และหลีกเลี่ยงไม่ให้ข้อขัดแย้งระหว่างสองประเทศบานปลายและมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น    จีน-อินเดียเป็นเพื่อนบ้านที่แยกขาดจากกันไม่ได้  ทั้งสองประเทศต่างเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก  จึงมีประโยชน์ร่วมกันอย่างกว้างขวางในการรักษาและส่งเสริมระเบียบโลกบนพื้นฐานกฎหมายระหว่างประเทศ

(yim/cai)

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

蔡建新