ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้เข้าร่วมการประชุมทางไกลระดับนานาชาติที่สำคัญ 3 ครั้ง อีกทั้งกล่าวสุนทรพจน์ผ่านจอภาพ และส่งจดหมายตอบกลับไปยังบุคคลต่างๆ ทั้งจากจีนและต่างประเทศมากกว่า 20 ฉบับ และได้คุยโทรศัพท์หารือกับนักการเมืองและผู้รับผิดชอบขององค์กรระหว่างประเทศสำคัญนับ 60 ครั้งด้วย กิจการทางการทูตแบบคลาวด์ดังกล่าว ได้แสดงถึงความรับผิดชอบของจีนในฐานะมหาประเทศ
จากคำปราศรัยในการประชุมสุดยอดพิเศษ G20 หัวข้อ "ร่วมกันต้านโควิด-19 ฝ่าฟันอุปสรรคด้วยกัน" หรือสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาอนามัยโลกครั้งที่ 73 หัวข้อ "สามัคคีและร่วมมือกันเพื่อเอาชนะโควิด-19 สร้างประชาคมที่มีสุขภาพอนามัยแห่งมนุษยชน" หรือคำปราศรัยในการประชุมสุดยอดพิเศษต้านโควิด-19 ระหว่างจีน-แอฟริกา หัวข้อ "สามัคคีกันต่อสู้กับโรคระบาด เอาชนะความยากลำบากร่วมกัน" ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงต่างเน้นย้ำถึงความสามัคคี
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อห่วงโซ่อุปสงค์อุปทานทั่วโลก ประธานาธิบดีจีนได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างได้ผลจริง ป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจโลกตกสู่ภาวะถดถอย ในฐานะที่จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก ปธน.สี จิ้นผิงกล่าวว่า จีนจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่แข็งขันและนโยบายการเงินที่มีความมั่นคง ขยายการปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอกต่อไป ลดข้อกำหนดเข้าถึงตลาด ปรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ขยายการลงทุนในต่างประเทศ ช่วยสร้างความมั่นคงของเศรษฐกิจโลก
"จีนยึดถือแนวคิดประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน" เป็นท่าทีของปธน. สีจิ้นผิงในการดำเนินกิจการทางการทูตกับผู้นำต่างประเทศและผู้รับผิดชอบขององค์กรระหว่างประเทศสำคัญ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานี้ จีนได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อต่อสู้กับโรคระบาด ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศเท่าที่จะทำได้ และได้ปฏิบัติตามแนวคิดของประชาคมมนุษย์ชนที่มีอนาคตร่วมกัน ด้วยการปฏิบัติที่แท้จริง
ปี 2020 ย่อมจะเป็นปีที่ไม่ธรรมดา "การทูตแบบคลาวด์" ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงนั้น จะร่วมอัดฉีดความเชื่อมั่นและพลังจากจีน สู่การพัฒนาโลกในจังหวะที่ไม่มั่นคงนี้อย่างแน่นอน
Yim/Lei/Zi