ในอนาคต สหรัฐฯจะพัฒนาไปทางไหน ? คงมีความเป็นไปได้สองแบบ ความเป็นไปได้แบบแรกคือ จากการบริหารด้วยดีสักระยะหนึ่ง สหรัฐฯสามารถรักษาแนวโน้มการฟื้นฟูทางด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งต่อไป
ความเป็นไปได้แบบที่สองคือ สหรัฐฯอ่อนแอลงต่อไป และกลายเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่สำคัญ ช่วงเวลานี้ การฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังไม่แข็งแกร่งมากพอ ประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การกระทำของสหรัฐฯที่ใช้สองมาตรฐานในกิจการระหว่างประเทศ และถือประโยชน์ของตนเหนือสิ่งอื่นใดนั้นส่งผลกระทบทางลบต่อความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ และไม่สอดคล้องกับแนวโน้มที่ต้องการสันติภาพและการพัฒนาของโลก ด้วยสาเหตุเหล่านี้ หากสหรัฐฯไม่ปรับปรุงนโยบายของตน คงยากที่จะได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประชาคมโลก
จีนและสหรัฐฯต่างมีบทบาทสำคัญในโลก สองประเทศนี้จะมองตนเอง และอีกฝั่งหนึ่งเป็นอย่างไรนั้นจะส่งผลกระทบถึงแนวทางการพัฒนาของโลกในอนาคต นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯเคยมีการพูดคุยกันหลายครั้งถึงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่ในรูปแบบใหม่ ซึ่งถือเป็นวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ที่กว้างไกล อย่างไรก็ตาม จีนและสหรัฐฯยังต้องมีการพูดคุยเจรจา และความร่วมมือกันมากขึ้น จึงสามารถบรรลุเป้าหมายตามแนวความคิดดังกล่าวได้
ความก้าวหน้าของยุโรป รัสเซีย และญี่ปุ่นก็มีความสำคัญต่อสถานการณ์โลกเช่นกัน แต่การปฏิรูปโครงสร้างของยุโรปเป็นไปด้วยความยากลำบาก แม้สถานการณ์ปัจจุบันจะดีขึ้นในระดับหนึ่งก็ตาม แต่คงยากที่จะกลับคืนสู่สภาพดีเช่นเดิม ส่วนรัสเซียยิ่งมีความลำบากมาก ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงตกอยู่ในสภาวะชะงักงัน อย่างไรก็ตาม ยุโรป รัสเซียและญี่ปุ่นมีความเป็นไปได้ที่จะรวมตัวกันเป็นพลังอำนาจขั้วที่ 3 พวกเขาจะก้าวไปในทิศทางใด และพลังอำนาจกลุ่มไหนจะดึงดูดให้พลังอำนาจขั้วที่ 3 เข้าไปรวมตัวกันด้วยนั้น ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบถึงโครงสร้างโลกในอนาคต
บทบาทของจีนบนเวทีโลกในปี 2014 มีความโดดเด่นมาก ในปี 2014 คำว่า “เชิงรุก”เป็นคำที่ดีที่สุดในการบรรยายบทบาทของจีนในเวทีโลก โดยจีนได้พึ่งพาอาศัยข้อได้เปรียบของตน เสนอข้อริเริ่มและแนวความคิดต่างๆ เกี่ยวกับความร่วมมือในภูมิภาคและทั่วโลก ในบรรดาข้อริเริ่มและแนวความคิดเหล่านี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ข้อริเริ่มเกี่ยวกับการสร้าง “แถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม” และ “เส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษ 21 ” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ขณะเดียวกัน จีนเร่งพัฒนาความร่วมมือกับประเทศยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก เมื่อโรคอีโบลาระบาดในหลายประเทศทั่วโลก จีนเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มแรกที่ยื่นมือให้ความช่วยเหลือ และเป็นประเทศที่จัดส่งกำลังคนและกำลังทรัพย์มากที่สุดไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค จากปฏิบัติการดังกล่าว ทำให้ทั่วโลกเห็นถึงการมีความรับผิดชอบ และความสามารถของจีนในการจัดการกับกิจการระหว่างประเทศ เมื่อเศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จีนย่อมจะมีส่วนร่วมในการจัดการกับปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลกมากขึ้น
แต่อีกด้านหนึ่ง จีนก็ได้เผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อน จีนไม่มีประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ในการดำเนินกิจการระดับโลกในฐานะประเทศสำคัญระดับโลก ดังนั้น จีนยังต้องเพิ่มประสบการณ์ในการดำเนินกิจการระดับโลกให้มากขึ้น รวมทั้งต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ให้ดียิ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้ จีนยังต้องเผชิญกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่สลับซับซ้อนวุ่นวาย จีนเป็นประเทศที่มีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากการสร้างระเบียบโลกปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องการปฏิรูประเบียบโลกปัจจุบันด้วย จีนได้ร่วมมือกับหลายๆ ประเทศในการปฏิรูประเบียบเศรษฐกิจและการเงินโลก ซึ่งได้ประสบความคืบหน้ามาบ้างแล้ว แต่ในด้านการเมืองและความมั่นคง จีนและประเทศขนาดใหญ่บางประเทศยังคงมีความขัดแย้งกันในระดับลึกซึ้ง
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของสถานการณ์โลกที่มีความวุ่นวายสลับซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จีนสนับสนุนให้คลังสมองเสนอข้อเสนอและความคิดเห็นในประเด็นปัญหาที่ประชาคมโลกให้ความสนใจ เช่น จีนจะใช้พลังอำนาจของตนในอนาคตอย่างไร จีนยังทบทวนบทบาทของตนในเวทีโลก และใช้นโยบายการทูตที่เปิดกว้างและมีความสุขุมเยือกเย็นมากขึ้น นอกจากนี้ จีนยังเร่งพัฒนาวิสัยทัศน์ทางสากล และบ่มเพาะจิตวิญญาณทางสากล พิจารณาประโยชน์ของตนภายใต้วิสัยทัศน์ทางสากลโลก เพราะการพัฒนาของโลกมีแต่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของจีนเท่านั้น สำหรับประเทศขนาดใหญ่ที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างจีน ต้องคำนึงถึงประโยชน์ร่วมกันของประชาคมโลกเสมอ เพราะการสร้างประโยชน์ร่วมกันของประชาคมโลกจะทำให้ประเทศตนได้รับประโยชน์ตามไปด้วย การเลือกหนทางดังกล่าว ยังจะช่วยให้จีนลดอุปสรรคให้เหลือน้อยลงในการบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
เมื่อประเทศขนาดใหญ่แสดงจุดยืนหรือใช้ปฏิบัติการใด ต้องตระหนักถึงผลสะท้อนและการตอบสนองจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้น เมื่อจีนเสนอข้อเสนอและข้อริเริ่มต่อประชาคมโลก ต้องคำนึงถึงความคิดเห็นของประเทศอื่นอย่างรอบคอบ โดยเน้นความร่วมมือและประโยชน์ร่วมกัน จีนต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนา “อำนาจนิ่ม” หรือ “อำนาจละมุน” เพราะจะทำให้จีนได้รับความเข้าใจและการสนับสนุนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากขึ้น
(yim/cai)