สำนักข่าวซินหวารายงานว่าวันที่ 8 สิงหาคม รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างรุนแรงในการใช้มาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางของจีน และเจ้าหน้าที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีนรวม 11 คน

โฆษกรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเน้นว่าการกระทำดังกล่าวจะสร้างความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องกง-สหรัฐฯ การใช้มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวของสหรัฐฯ ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างอุกอาจและโจ่งแจ้ง นักการเมืองสหรัฐฯบางส่วนใช้ฮ่องกงเป็นเกมส์สร้างความวุ่นวายต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว   

ตั้งแต่เกิดสถานการณ์การชุมนุมในฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว  รัฐสภาสหรัฐฯ และทำเนียบขาวผ่านกฎหมายและประกาศคำสั่งฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้องกับฮ่องกงหลายฉบับ โดยอ้างสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และการปกครองตนเอง พฤติกรรมดังกล่าวของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการใช้สองมาตรฐาน และยังเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และบรรทัดฐานแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ การปฏิบัติตามนโยบาย “หนึ่งประเทศสองระบบ” สอดคล้องกับประโยชน์ของชาวฮ่องกง และเป็นความปรารถนาร่วมกันของประชาชนทั่วประเทศจีน รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงย้ำต่อสหรัฐฯ มาตลอดว่าฮ่องกงเป็นเขตบริหารท้องถิ่นที่มีสิทธิปกครองตนเองในระดับสูงของจีน ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายสหรัฐฯ จะไม่ยอมรับฟังคำอธิบายเหล่านี้

สหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรในครั้งนี้ โดยอ้างว่าฮ่องกงได้บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ต่อประเด็นนี้โฆษกรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงกล่าวว่า ข้ออ้างของสหรัฐฯไม่มีเหตุผล ความมั่นคงแห่งชาติมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกประเทศ  ไม่ว่าประเทศที่ใช้ระบบรัฐเดี่ยว หรือระบบสหพันธรัฐก็ตาม

กิจการความมั่นคงแห่งชาติล้วนอยู่ในขอบเขตอำนาจของรัฐบาลกลาง ซึ่งรัฐบาลกลางจีนได้พิจารณาถึงฐานะพิเศษของฮ่องกง และมอบหมายให้ฮ่องกงเป็นองค์กรหลักในการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ตามกฎหมายฉบับนี้เขตบริหารพิเศษฮ่องกงต้องเคารพและปกป้องสิทธิมนุษยชนในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ มองข้ามรายละเอียดในกฎหมายเหล่านี้ และวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร้เหตุผลเพื่อประโยชน์ส่วนตน

โฆษกผู้นี้ยังได้ประณามอย่างรุนแรงต่อฝ่ายสหรัฐฯ ที่จงใจแสดงข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงโดยกล่าวว่าพฤติกรรมดังกล่าวของสหรัฐฯ ถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่จีน รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงขอใช้สิทธิ์ทางด้านกฎหมายที่จำเป็นต่อสหรัฐฯ

(bo/cai)