สิทธิมนุษยชนของชาวอเมริกันเองได้รับการคุ้มครองหรือไม่?

2020-08-12 22:27:21 | CRI
Share with:

สิทธิมนุษยชนของชาวอเมริกันเองได้รับการคุ้มครองหรือไม่?_fororder_1

รัฐบาลสหรัฐฯ มักกล่าวหาประเทศอื่นว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่สิทธิมนุษยชนของชาวอเมริกันเองได้รับการคุ้มครองหรือไม่? เมื่อเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ดูแลประชาชน แต่กลับเน้นแต่เศรษฐกิจ พร้อมกับมุ่งใส่ร้ายประเทศอื่นว่าเป็นตัวการที่ทำให้สหรัฐฯ ต้องเผชิญกับโรคระบาดที่รุนแรง

วันนี้ เรามาดูกันว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ใช้คำโกหกอย่างไรในการปิดบังความผิด

เมื่อจีนตัดสินใจจะปิดเมืองอู่ฮั่นเพื่อต้านโควิด-19 สหรัฐฯ กล่าวหาจีนว่า ไม่มีสิทธิมนุษยชน

เมื่อจีนตัดสินใจแยกผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกจากชุมชน เพื่อควบคุมการระบาด สหรัฐฯ กล่าวหาจีนอีกว่า ไม่มีสิทธิมนุษยชน

เมื่อจีนตัดสินใจสร้างโรงพยาบาลชั่วคราว หรือที่เรียกว่าโรงพยาบาล  “ฟางชาง” สหรัฐฯ กล่าวหาจีนว่า จีนกำลังสร้างค่ายกักกัน ไม่มีสิทธิมนุษยชน

เมื่อจีนควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่นได้แล้วและประกาศยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางในเมืองอู่ฮั่น สหรัฐฯ กล่าวหาจีนว่า จีนทำทุกอย่างเพื่อเงิน ไม่มีสิทธิมนุษยชนจริง ๆ

หลายเดือนที่แล้ว นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยแถลงข่าวว่า ตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ดีมาก อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ต่ำมาก  เขาจะทำให้สหรัฐฯ ยิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ช่วงเวลานั้น มีผู้เชี่ยวชาญเตือนประธานาธิบดีทรัมป์ว่า ต้องระวังโควิด-19 แต่ประธานาธิบดีทรัมป์กลับตอบว่า ไม่มีใครรู้เรื่องไวรัสดีกว่าเขาแล้ว โดยมอบหมายให้รองประธานาธิบดีดูแลรับผิดชอบเรื่องการป้องกันและควบคุมโควิด-19

ต่อมา ผู้เชี่ยวชาญเตือนประธานาธิบดีทรัมป์อีกครั้งว่า ต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาดในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด เพราะโควิด-19 อันตรายมาก แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบกลับไปว่า อย่าพูดแบบนั้น มันจะกระทบต่อตลาดหุ้น

สองเดือนต่อมา เจ้าหน้าที่รายงานประธานาธิบดีทรัมป์ว่า สหรัฐฯ มีจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบกลับไปว่า เราทำงานทุกอย่างได้ดีมาก เมื่อเจ้าหน้าที่รายงานต่อว่า ตลาดหุ้นของเราใกล้พังแล้ว พอได้ยินเช่นนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ตกตะลึงพร้อมตัดสินใจทันทีว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อกู้ตลาดหุ้น

วิกฤตโควิด-19 ในสหรัฐฯ นับวันยิ่งรุนแรงขึ้น เสียงวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีทรัมป์จึงมีมากขึ้นเช่นกัน ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์รู้สึกไม่สบายใจ จึงถามลูกน้องว่าทำไมต้องให้เขารับผิดชอบ ทำไมทุกคนถึงวิพากษ์วิจารณ์เขา และเราจะสามารถแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการใด ลูกน้องของทรัมป์ เช่น นายปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จึงพากันช่วยหาทางออกให้ โดยเสนอให้ประธานาธิบดีทรัมป์โกหกประชาชนในประเทศและประชาคมโลก เมื่อได้รับคำแนะนำเช่นนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ก็รู้สึกดีใจเพราะเขามีความชำนาญในการใช้คำพูดโกหกอยู่แล้ว  

หลังจากนั้น เมื่อมีผู้สื่อข่าวถามว่า ท่านประธานาธิบดี ขณะนี้  สถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐฯ รุนแรงมาก ท่านจะรับผิดชอบต่อวิกฤตครั้งนี้ใช่หรือไม่ ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบว่า เป็นไวรัสจีน ทุกอย่างเป็นความผิดของจีน

เมื่อมีผู้สื่อข่าวถามว่า ท่านประธานาธิบดี มีชาวอเมริกันจำนวนนับหมื่นนับแสนคนเสียชีวิตจากโควิด-19 ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร  ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบว่า เป็นความผิดขององค์การอนามัยโลก

เมื่อมีผู้สื่อข่าวถามว่า ท่านประธานาธิบดี ความเสียหายทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะท่านไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำมิใช่หรือ ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบว่า คุณเป็นข่าวเท็จ

ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 วัยรุ่นชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยเชื่อมั่นว่า  สหรัฐฯ มีระบบการรักษาพยาบาลที่ทันสมัย และคนหนุ่มสาวมีภูมิคุ้มกันแข็งแรง พวกเขาจึงไม่เห็นด้วยต่อการใช้มาตรการจำกัดการเดินทางและรักษาระยะห่างทางสังคม พวกเขาต้องการเสรีภาพและต้องการให้เปิดทำงานโดยเร็ว พวกเขาเห็นว่า หากไม่มีเสรีภาพคงตายเสียดีกว่า

การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาสนับสนุนกลุ่มคนรุ่นใหม่ดังกล่าวอย่างเปิดเผย แต่ขณะเดียวกัน คนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและคนผิวดำต่างไม่เห็นด้วยกับการเปิดทำงานเร็วเกินไป เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 อย่างมาก นอกจากนี้ พวกเขายังไม่มีเงินพอรักษาพยาบาล

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงไม่ฟังเสียงคนกลุ่มนี้ เขาเน้นย้ำว่าเศรษฐกิจสำคัญที่สุด ท่าทีดังกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้คนกลุ่มหลังไม่พอใจอย่างยิ่งพร้อมกับตั้งคำถามต่อประธานาธิบดีว่า กำลังจะฆ่าพวกเขาอยู่ใช่ไหม แต่ทรัมป์กลับตอบว่า อย่ามาถามเขา ไปถามจีนดีกว่า

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เจ้าหน้าที่รายงานประธานาธิบดีทรัมป์ว่า จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบว่า นี่เป็นความผิดของนายโอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นความผิดของพรรคเดโมแครต เป็นความผิดนายแอนโธนี เฟาชี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐฯ เป็นความผิดของจีน เป็นความผิดขององค์การอนามัยโลก สื่อที่รายงานข่าวเชิงลบเกี่ยวกับเขาเป็นเรื่องเท็จ และทั้งหมด ไม่ใช่ความผิดของเขา

จนถึงวันที่ 9 สิงหาคม สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวม  5,000,603 คน และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อย่างน้อย 162,441 คน  ขณะนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

蔡建新