เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้นำสหรัฐฯ ใช้คำ “ไวรัสจีน” “โรคระบาดจีน” ซึ่งเป็นการใส่ร้ายป้ายสีทางการเมืองหลายต่อหลายครั้ง ทำให้วงการต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศสหรัฐฯ เกิดเสียงสะท้อนโต้ตอบอย่างรุนแรง ซีเอ็นเอ็นออกบทวิจารณ์ว่า สำหรับการตั้งชื่อการระบาดของโควิด ชาวโลกรู้ว่าไม่ใช่การบรรยายแบบ “ไวรัสจีน” โดยเด็ดขาด นิตยสาร “แอตแลนติก” ของสหรัฐฯออกบทความชี้ให้เห็นว่า ผู้นำสหรัฐฯ จัดการวิกฤตครั้งนี้ จากมุมมองส่วนตัวและความมุ่งหมายทางการเมืองโดยสิ้นเชิง
ตั้งแต่เกิดการระบาดโควิดเป็นต้นมา นักการเมืองบางคนของสหรัฐฯ ไม่มีแนวคิดต้านโควิดตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่จะถือเป็นโอกาสทางการเมือง และพยายามเอาไวรัสมาผูกมัดกับจีน เพื่อหลบหลีกความผิดความพ่ายแพ้ในการต้านโควิดของตน อีกทั้งพยายามปลุกปั่นความแค้นระหว่างชนเผ่าเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง นโยบายที่เร่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจและกลับเข้าเรียนในโรงเรียนที่เร็วเกินไป ทำให้สถานการณ์โควิดในรัฐหลายแห่งกลับรุนแรงยิ่งขึ้น กระทั่งสร้างความหวาดกลัว หมายจะให้เกิดการเป็นปรปักษ์ด้านคตินิยม มุ่งหวังที่จะเรียกวิญญาณลัทธิแมคคาร์ธี (McCarthyism) กลับมา เอาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ผูกมัดกับการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเดินทางที่ผิดทิศทาง
การแต่งเรื่องลวงหลอกอาจทำให้นักการเมืองสหรัฐฯรู้สึกดี แต่ไม่สามารถต้านโควิดได้ นักการเมืองสหรัฐฯเอาไวรัสผูกโยงกับจีนซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่กลับกระตุ้นความขัดแย้งด้านชนเผ่าภายในสหรัฐฯ ให้รุนแรงยิ่งขึ้นแทน ทำให้ชาวสหรัฐฯ ที่ผจญกับวิกฤตโควิดระบาด ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ลำบากยากยิ่งขึ้น
(Yim/Lin/Zhou)