เพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาระสำคัญของแผนแม่บทดังกล่าว สำนักงานสารนิเทศแห่งคณะรัฐมนตรีจีน ได้จัดงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีผู้รับผิดชอบของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงข่าวและตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับแผนแม่บทว่าด้วยการสร้างเมืองท่าการค้าเสรีไหหลำซึ่งสรุปได้ “6+1+4”
6 หมายถึงการอำนวยความสะดวกด้านการค้าเสรี การอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน การอำนวยความสะดวกด้านการหมุนเวียนของทุนข้ามชาติ การอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางเข้าออกของผู้คน การอำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง และ การประกันความปลอดภัยและความเป็นระเบียบด้านการหมุนเวียนของข้อมูล
1 หมายถึง การสร้างระบบอุตสาหกรรมที่ทันสมัย โดยเน้นการใช้ประโยชน์ความได้เปรียบและเอกลักษณ์ของไหหลำ ทุ่มเทพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการบริการที่ทันสมัย และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับสูง
4 หมายถึง การเสริมสร้างระบบในสี่ด้าน ได้แก่ ด้านการเก็บภาษี ด้านการบริหารจัดการทางสังคม ด้านระบบกฎหมาย และด้านการป้องกันและควบคุมความเสี่ยง
เป้าหมายการพัฒนาเมืองท่าการค้าเสรีไหหลำ กำหนดไว้เป็น 3 ระยะคือ 1. ถึงปี 2025 สร้างระบบนโยบายและกลไกสำหรับเมืองท่าการค้าเสรีที่ถือความสะดวกและอิสระด้านการค้าและการลงทุนเป็นสำคัญในขั้นพื้นฐาน 2. ถึงปี 2035 จะพัฒนาไหหลำให้กลายเป็นประตูเศรษฐกิจแห่งใหม่ที่มีความได้เปรียบกว่าด้านการเปิดสู่ภายนอกทางเศรษฐกิจของจีน และ 3. ถึงกลางศตวรรษที่ 21 ไหหลำจะถูกพัฒนาให้กลายเป็นเมืองท่าการค้าเสรีระดับสูงที่มีอิทธิพลต่อทั่วโลก
นายหลิน เนี่ยนซิว รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนกล่าวเน้นว่า เมืองท่าการค้าเสรีไหหลำมีการกำหนดวัตถุประสงค์ที่แตกต่างจากฮ่องกง โดยเมืองท่าการค้าเสรีไหหลำจะมุ่งเปิดเสรีและอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยว ธุรกิจบริการที่ทันสมัย และอุตสาหกรรมนิวไฮเทค เร่งส่งเสริมความได้เปรียบของไหหลำในเรื่องความร่วมมือและการแข่งขัน ซึ่งต่างกับฮ่องกงในขณะนี้ จากวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน จึงไม่ส่งผลกระทบต่อฮ่องกง แต่จะทำให้ทั้งสองเมืองมีความเกื้อกูลกันมากกว่าการแข่งขัน
รัฐบาลจีนกำลังออกนโยบายที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างเมืองท่าการค้าเสรีไหหลำตามแผนแม่บท เช่น เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน กระทรวงการคลัง สำนักงานศุลกากรและสำนักงานสรรพากรของจีนได้ร่วมกันออก “ประกาศว่าด้วยนโยบายซื้อสินค้าปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวในไหหลำ” ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยมีสาระสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) ปรับเพิ่มโควตาการซื้อสินค้าปลอดภาษีจากเดิม 3 หมื่นหยวนเป็น 1 แสนหยวน/คน/ปี 2) ปรับเพิ่มชนิดสินค้าปลอดภาษีจากเดิม 38 ชนิดเป็น 45 ชนิด และ 3) ยกเลิกข้อจำกัดที่ให้สินค้าปลอดภาษีมีราคาสูงสุดอยู่ที่ 8,000 หยวนต่อชิ้น ปัจจุบัน โทรศัพท์ไอโฟน แท็บเล็ต หูฟัง นาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ ไวน์แดง อาหารเสริมสุขภาพและผลิตภัณฑ์น้ำผึ้ง ซึ่งเป็นสินค้าปลอดภาษีที่ปรับเพิ่มขึ้นใหม่ในครั้งนี้ได้เริ่มวางขายอย่างเป็นทางการแล้ว
Bo/Lu