ถามคนปักกิ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทยเป็นเวลานาน (หนึ่งปีขึ้นไป) ว่า คิดถึงผลไม้ของบ้านชนิดไหนมากที่สุด? เชื่อว่าส่วนใหญจะต้องตอบว่า ลูกท้อแน่ๆ เนื่องจากปลูกที่พื้นที่ภาคเหนือของจีนเป็นหลัก ในพื้นที่โซนร้อนปลูกไม่ได้ ถึงแม้ออกผลได้ ก็มีรสชาติที่ไม่ค่อยดีเท่าไร อีกด้านหนึ่ง ลูกท้อเป็นผลไม้ที่ขนส่งลำบากและเน่าเสียง่าย จึงไม่สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ คนปักกิ่งที่อยู่ที่ต่างประเทศ เมื่อคิดถึงผลไม้จากบ้าน คงต้องคิดถึงลูกท้อเป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน

นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวปักกิ่ง คงต้องสนใจลองชิมผลไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของปักกิ่งกันทุกคน แต่อากาศของปักกิ่งแยกเป็น 4 ฤดูในรอบหนึ่งปี โดยมีความแตกต่างกันทางอุณหภูมิอย่างมาก ฤดูร้อนอากาศจะร้อนมาก บางวันขึ้นถึง 40 องศา แต่ในฤดูหนาว อากาศเคยหนาวมากถึงลบ 20 องศา ผลไม้ในแต่ละฤดูก็จะไม่เหมือนกัน

หากไปเที่ยวปักกิ่งในฤดูร้อน(เดือนมิ.ย.-ส.ค.) อันดับแรกย่อมจะเป็นลูกท้อ ลูกท้อที่อร่อยที่สุดของประเทศจีนต้องเป็นลูกท้อที่ผลิตจากเขตผิงกู่ ทางภาคตะวันออกของปักกิ่ง มีขนาดใหญ่ นิ่ม หวาน ราคาไม่แพงด้วย ประมาณ 5-10 หยวนต่อชั่ง (0.5กิโลกรัม)

คนจีนบอกว่า กินลูกท้อเป็นข้าวได้ แต่กินลูกไหนเยอะๆ ไม่ดี หากอยากกินลูกไหนที่สวยๆ หวานๆ ต้องมาฤดูร้อน (เดือนก.ค. - ส.ค.) ก็เป็นเวลาที่เหมาะสมมาก เมื่อเทียบราคาของ tops market หรือ villa market คงจะถูกกว่าหลายเท่าเลย

ฤดูใบไม้ร่วง(เดือนก.ย.-พ.ย.)ถือว่าเป็นเวลาทองสำหรับนักกินผลไม้ มีลูกพลับ(สดและแห้ง) สาลี่ แอปเปิล ส้ม ให้เลือกกินกัน โดยเฉพาะเขตชางผิงในภาคเหนือของปักกิ่ง เคยเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่ถวายฮ่องเต้ในสมัยราชวงศ์ชิง

ฤดูหนาวและฤดุใบไม้ร่วงคือช่วงเวลาที่มีผลไม้ค่อนข้างน้อย ที่เลือกได้ก็มีเพียงแต่ ส้ม แอปเปิ้ล แต่โชคดีมีสตรอเบอร์รี่ช่วยเติมท้องของนักกินผลไม้ สตรอเบอร์รี่เก็บได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคมปีต่อไป สตรอเบอร์รี่ของปักกิ่งมีหลากหลายพันธุ์เลยทีเดียว ทั้งมีขนาดใหญ่ รสหวานและกลิ่นหอมด้วย ที่ต้องแนะนำเป็นพิเศษคือสตรอเบอร์รี่นม ซึ่งเป็นลูกสีขาวและมีกลิ่มเหมือนนมวัวสดนิดหนึ่ง แต่ราคา...... ก็แพงพอสมควร แต่ยังไงก็ถูกกว่าซื้อที่เมืองไทยแน่ๆ

Dan/Yim